Skip to content
  • กว่าจะมาเป็น … นายกาฝาก
  • รู้จักนายกาฝาก
  • ติดต่อนายกาฝาก
บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

  • ข่าว
  • รีวิว
  • แบ่งปันความรู้
    • บทวิเคราะห์
  • บทความ How-to
    • QNAP User Guide
    • QNAP NAS 101
    • How-to อื่นๆ
  • Living with Ubuntu
  • บ่นเรื่อยเปื่อย
  • เที่ยวไปทั่ว
    • ไทย
    • เอเชีย
    • ยุโรป
  • ข่าว
  • รีวิว
  • แบ่งปันความรู้
    • บทวิเคราะห์
  • บทความ How-to
    • QNAP User Guide
    • QNAP NAS 101
    • How-to อื่นๆ
  • Living with Ubuntu
  • บ่นเรื่อยเปื่อย
  • เที่ยวไปทั่ว
    • ไทย
    • เอเชีย
    • ยุโรป
ข่าวเขาฝากมา
  • เวสเทิร์น ดิจิตอล ยกทัพ SSD แบบพกพาความจุเต็มพิกัดทุกแบรนด์ในตระกูลออกจำหน่าย พร้อมนำเสนอทางเลือก SSD แบบพกพาความจุสูงถึง 4TB ที่หลากหลายให้กับผู้ใช้งานทั่วไปและระดับโปรเฟสชันนัลในยุคที่สตอเรจจำเป็นต้องเร็วและมีความทนทาน
  • realme จัดแคมเปญ ‘Empower The Next Gen’ เสริมพลังขับเคลื่อนคนรุ่นใหม่ เปิดพื้นที่โชว์ 4 ศักยภาพอย่างไร้ขีดจำกัด
  • ชี้เป้าสมาร์ทโฟน 5G สุดคุ้ม “Galaxy A42 5G” จากซัมซุง เร็วแรงพร้อมลุยทุกการใช้งาน ในราคาหมื่นต้น!
  • ดีแทคจับมือยารา เปิดตัว Kaset Go เครือข่ายดิจิทัลชุมชนเพื่อเกษตรกรแห่งแรกในประเทศไทย
  • อาร์ทีบีฯ ส่งแพ็กคอนเทนต์ครีเอเตอร์!!! ชุดหูฟัง ATH-M40x พร้อมไมโครโฟน ATR2500X-USB ของ Audio-Technica ราคาสุดคุ้มเอาใจผู้ผลิตคอนเทนต์
  • เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัว WD_BLACK SN850 NVMe SSD มอบอีกขั้นของความเร็วแรงบนเทคโนโลยี PCIe® GEN4 รุ่นใหม่
Home>>บ่นเรื่อยเปื่อย>>น้ำด่าง หรือ น้ำอัลคาไลน์ ดื่มแล้วดีต่อร่างกายจริงเหรอ?
ภาพของขวดน้ำดื่มที่กำลังเทน้ำลงแก้ว
บ่นเรื่อยเปื่อย

น้ำด่าง หรือ น้ำอัลคาไลน์ ดื่มแล้วดีต่อร่างกายจริงเหรอ?

นายกาฝาก
กุมภาพันธ์ 1, 2020 10560 Views0

จริงๆ เรื่องนี้ผมเคยเขียนเอาไว้ในบล็อกเก่าของผมเมื่อเกือบ 5 ปีมาแล้ว แต่เนื่องจากยังเห็นว่ายังคงมีการขายเครื่องทำน้ำด่าง หรือน้ำอัลคาไลน์กันอยู่ และก็ยังโฆษณาสรรพคุณว่ามันดีต่อร่างกายยังงั้นยังงี้อยู่ ผมเลยขอถือโอกาส เอาบล็อกเก่าของผมมาเขียนใหม่หมดให้ได้อ่านกันอีกรอบดีกว่านะครับ เพราะในตอนนั้น ผมเขียนสรุปเอาไว้ว่า “ยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์” แต่ ณ ตอนนี้ ผมคงต้องบอกว่า หลังจากพิจารณาตรรกะต่างๆ แล้ว ต้องบอกเลยว่า น้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ ไม่ได้มีประโยชน์ใดๆ ต่อร่างกายเลย เผลอๆ จะเป็นโทษซะด้วยซ้ำ

ออกตัวล้อฟรีก่อน…

บทความนี้ยาวเอาเรื่อง และมีการอ้างอิงไปยังบทความและเอกสารต่างๆ มากมาย เป็นภาษาอังกฤษซะส่วนใหญ่ด้วยสิ แต่อยากให้อ่าน ทำความเข้าใจให้หมด อันไหนเป็นใจความสำคัญผมก็จะแปลมาให้ฮะ ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับใครในเรื่องนี้ ผมแค่ไม่อยากให้คนไทยโดนหลอกให้ดื่มน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ ซึ่งต้องมาเสียเงินซื้อแพงโดยใช่เหตุ แล้วไม่ได้ประโยชน์ใดๆ กลับมาเลย หนำซ้ำ หากไปหลงกลเชื่อเรื่องคุณสมบัติในการรักษาโรคอีก ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะอาจทำให้สุขภาพร่างกายของคุณแย่ลงไปอีก

เข้าใจเรื่องค่าความเป็นกรดและด่างของน้ำดื่มก่อน

ใครที่เรียนวิชาวิทยาศาสตร์มาตอนเด็กๆ อาจจะจำได้ว่าการวัดค่าความเป็นกรดและด่าง หรือที่เรียกว่าค่า pH มันมีเกณฑ์เป็นเลขตั้งแต่ 0 ถึง 14 โดยที่ 0-6 คือ กรด ส่วน 8-14 เป็นด่าง และ 7 นี่คือเป็นกลาง

ตารางอธิบายค่าความเป็นกรดและด่าง

ทีนี้ ถ้าเกิดว่าเราลองเอาเครื่องมือมาวัดน้ำดื่มดู ส่วนใหญ่มันจะมีค่าราวๆ pH = 7 คือมีค่าเป็นกลาง หรืออาจจะต่ำกว่านิดหน่อย หรือพูดง่ายๆ คือเป็นกรดนิดๆ ในขณะที่พวกน้ำแร่จากธรรมชาติ เนื่องจากมีแร่ธาตุที่เป็นด่างเจือปนอยู่ มันก็อาจจะมีค่าเป็นด่างนิดๆ คือ pH = 8-8.5

ตารางค่าความเป็นกรดและด่างของอาหารและน้ำชนิดต่างๆ
ค่าความเป็นกรด-ด่าง ของอาหาร เครื่องดื่ม ของเหลว ชนิดต่างๆ (ข้อมูลจาก: Department of Health, Northern Territory Government, Australia ภาพจาก: health.govt.nz)

สำหรับคนที่สงสัย ดูข้อมูลจาก Department of Health, Northern Territory Government, Australia ก่อนนะครับ เราจะเห็นว่า อาหาร เครื่องดื่ม และของเหลวต่างๆ ที่เราพบได้ในชีวิตประจำวัน มีความเป็นกรด-ด่าง ยังไงกันบ้าง

  • น้ำอัดลมมีค่าเป็นกรด แถมเยอะซะด้วย คือ pH = 2 กว่าๆ
  • กาแฟเองก็มีความเป็นกรดนิดๆ อยู่ที่ราวๆ pH = 5
  • นมเองก็มีความเป็นกรดนิดๆ เช่นกัน pH ราวๆ 6.8
  • เลือดมีความเป็นด่างเล็กน้อย ราวๆ pH = 7.4
  • น้ำทะเล ขนาดเค็มแบบนั้นแล้ว ยัง pH = 8

และเผื่อใครไม่รู้ จากข้อมูลของ American Association for Clinical Chemistry นั้น ปัสสาวะคนเราโดยปกติแล้วจะมีค่าเป็นกรดนิดหน่อย คือ ราวๆ pH = 6 แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ค่าอาจจะแกว่งระหว่าง pH = 4.5-8

ทำไมผมต้องพูดถึงปัสสาวะด้วย? เดี๋ยวอ่านไปเรื่อยๆ จะรู้

ส่วนพวกน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ที่เขาขายๆ กัน จะมีค่า pH ราวๆ 8 กว่าๆ แต่บางยี่ห้ออาจจะพุ่งไประดับ 10-12 เลยก็ได้ ถ้ามองตัวเลขแบบนี้แล้ว น้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์นี่คือมีความเป็นด่างระดับน้ำทะเลหรือเค็มกว่านั้นเลยนะ

น้ำธรรมดา กลายเป็นน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ได้ยังไง?

อยู่ที่ว่ามันเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือว่าถูกสังเคราะห์ขึ้นมาล่ะ … ถ้าเกิดขึ้นตามธรรมชาติ มันก็มาจากการเจือปนของพวกแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดความด่างขึ้นมา แต่ก็จะมีค่าอยู่ที่ราวๆ pH = 7.1-7.5 ส่วนพวกน้ำประปาจะมีค่า pH ราวๆ 7.5 (ส่วนนึงเป็นผลมาจากปริมาณคลอรีน)

แต่ถ้าสังเคราะห์ขึ้นมา เขาจะใช้วิธีการเอาประจุไฟฟ้ามาแลกเปลี่ยนประจุไอออนจากโลหะจำพวกแพลตินัทหรือไททาเนียมเพื่อทำให้น้ำมีค่าเป็นด่างมากขึ้น ไมไ่ด้มีอะไรซับซ้อนไปมากกว่านี้เลยครับ บางยี่ห้อที่พยายามคุยเรื่องความบริสุทธิ์ของน้ำ ก็อาจจะมีการเพิ่มระบบกรองน้ำเข้าไป ก็แค่นั้น

สรรพคุณที่อวดอ้างของน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ และความเป็นจริงในเชิงวิทยาศาสตร์

ไม่ว่าจะเป็นขายในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ สรรพคุณที่อวดอ้างก็จะไม่ค่อยแตกต่างกันหรอกนะครับ ทีนี้เรามาดูกันทีละสรรพคุณที่อวดอ้างกัน แล้วมาดูว่าข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์มันเป็นยังไง

น้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ช่วยปรับสมดุลความเป็นกรดด่างของร่างกาย

คือ ในร่างกายคนเรามันมีจุดที่เป็นกรด จุดที่เป็นด่าง แตกต่างกันไปอยู่แล้วมั้ยล่ะคุณ เพราะมันต้องรักษาระดับความเป็นกรดหรือด่างเอาไว้เพื่อให้การทำงานมันเป็นไปอย่างราบรื่น

  • น้ำลายคนเรามีค่า pH อยู่ที่ 6.0-7.4
  • สมองมีค่า pH ราวๆ 7.1
  • หัวใจมีค่า pH 7.0-7.4
  • เลือดคนเรามีค่า pH 7.35.-7.45
  • กรดในกระเพาะก็ pH 0.7-2.0
  • อสุจิ pH 7.5
  • น้ำย่อยในลำไส้เล็ก pH 7.5-8.0
  • กระดูก pH 7.4
  • กล้ามเนื้อ pH 6.9-7.2

คำถามคือ ดื่มน้ำด่างไปแล้ว มันจะไปช่วยส่วนต่างๆ ได้ยังไง? แค่ดื่มเข้าไป ลงท้องไปปุ๊บ เจอกรดระดับ pH 0.7-2.0 มันจะเหลืออะไร มันจะมีแต่ทำให้ระดับความเป็นกรดของน้ำย่อยลดลง ทำให้อาหารย่อยไม่ดีไปซะอีกเหอะ

นอกจากนี้ ต่อให้ดื่มน้ำธรรมดาที่ pH ประมาณ 7 เข้าไป พอไปถึงส่วนลำไส้ มันก็กลายเป็นด่างไปแล้วครับ เลือดคนเราก็เป็นด่างอ่อนๆ อยู่แล้ว และแน่นอน การดื่มพวกน้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีค่า pH ต่ำ มีฤทธิ์เป็นกรด ก็ไม่ได้ทำให้ร่างกายมีความเป็นกรดมากขึ้นแต่อย่างใด ถ้าใครทำมาเป็นว่าให้ทดสอบว่าร่างกายมีความเป็นกรดสูงไหม โดยการให้วัดค่า pH ของปัสสาวะเรา จำไว้เลยนะ ปัสสาวะมีความเป็นกรดอ่อนๆ อยู่แล้วจ้า และสำหรับบางคนก็อาจจะมีความเป็นกรดสูงด้วย วัดยังไงก็กรดเหอะแมะ

นอกจากนี้ การที่ร่างกายมีความเป็นกรดหรือด่างมากเกินไป มันมาจากการทานอาหารที่ไม่สมดุล ทำให้มีแร่ธาตุบางอย่างมากเกินไปหรือน้อยเกินไป การดื่มน้ำด่างหรือดื่มน้ำอัลคาไลน์ที่ได้มาจากการสังเคราะห์ ไม่ใช่มาจากการเติมแร่ธาตุ ซึ่งไม่ได้มีแร่ธาตุอยู่เลยมันไม่ช่วยปรับสมดุลใดๆ ทั้งสิ้น และอาจกลายเป็นทำให้ร่างกายยิ่งขาดแคลนแร่ธาตุโดยเฉพาะในหมวดหมู่อัลคาไลน์ (แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี เซเลเนียม ฯลฯ) เข้าไปอีก เพราะร่างกายรู้สึกว่ามีอัลคาไลน์เยอะแล้ว จะไม่กักเก็บแร่ธาตุอัลคาไลน์พวกนี้เอาไว้อีก

น้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ ป้องกันร่างกายจากการทำลายของกรดส่วนเกิน

อะไรเรียกว่ากรดส่วนเกินกันเนี่ย ถ้าหมายถึงคนที่จุกเสียด แน่นอนในกระเพาะอาหาร เพราะเป็นโรคกระเพาะ คนไปปรึกษาแพทย์ ขอยามาทานเพื่อลดกรด มากกว่าดื่มน้ำด่างหรือดื่มน้ำอัลคาไลน์เองนะครับ ยาลดกรดที่ใช้ในการแพทย์ เขาออกแบบมาให้มันถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้น้อย ไม่ไปรบกวนสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย การไปหาน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์มาดื่มเองต่างหาก ที่จะทำสมดุลกรด-ด่างในร่างกายชิบหายหมด

น้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ ช่วยฟื้นฟูร่างกายด้วยการทำความสะอาดในระดับเซลล์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคของร่างกาย

แหม่ นี่มันสรรพคุณมาตรฐานของยาครอบจักรวาลจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องมะเร็ง คือ บอกก่อนเลยว่า จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกใดๆ ที่ชี้ว่าน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์มันป้องกันหรือรักษาโรคมะเร็งได้เลยนะ

ทำไมเขาถึงอ้างว่าน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์มันช่วยป้องกันมะเร็ง? ก็เพราะว่ามันมีผลการทดลองในห้องปฏิบัติการพบว่า เซลล์มะเร็งเนี่ยอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เป็นกรดได้ แต่ไปไม่รอดในสภาวะที่เป็นด่าง มันก็จะอ้างกันว่าการดื่มน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์จะช่วยปรับสภาพเซลล์ให้เป็นด่าง เซลล์มะเร็งก็จะเติบโตไม่ได้ … ว่าเข้าไปนั่น

แต่เคยมีคนถามเรื่องนี้ไปที่ American Institute for Cancer Research หรือ สถาบันวิจัยโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาแล้ว คำตอบง่ายๆ และชัดเจนมาก คือ

  • การปรับสภาพแวดล้อมความเป็นกรด-ด่างในห้องปฏิบัติการมันทำได้ แต่ในเซลล์ร่างกายคนเรามันทำไม่ได้นะจ๊ะ เพราะร่างกายมันมีการรักษาสมดุลด้วยตัวมันเองอยู่ การดื่มน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์เข้าไป มันจะทำให้กระเพาะเรามีความเป็นกรดลดน้อยลง มันไม่ดีต่อร่างกายซะมากกว่า
  • และต่อให้มันปรับสภาพร่างกายให้เป็นด่างได้จริงๆ (ซึ่งมันไม่จริง) ความเป็นกรด-ด่างในร่างกายเรามันสมดุลดีอยู่แล้ว เลือดคนเรามี pH 7.35-7.45 อยู่ ถ้าเกิดมันดันมีค่าเป็นกรดมากไปหรือด่างมากไป มันจะกลายเป็นไม่ดีต่อสุขภาพ หรือเป็นอันตรายต่อชีวิตด้วยซ้ำ การที่เลือดมีสภาวะเป็นกรดมากไปหรือด่างมากไป มันเป็นตัวชี้ว่าสุขภาพร่างกายมีปัญหานะครับ

การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคของร่างกาย ยิ่งไม่เกี่ยวอะไรเลยเหอะ จากบทความของ สสส. ถ้าเราตัดปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น พันธุกรรม อายุ ออกไปแล้วละก็ การออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ การทานอาหารที่มีประโยชน์และครบห้าหมู่ และทำอารมณ์ให้แจ่มใส หลีกเลี่ยงความเครียด ความทุกข์ ต่างหาก คือสิ่งที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย

น้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด

ตอนอ่านสรรพคุณ มันก็เขียนโม้ไว้แค่ว่า น้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์มันช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือดได้ แต่ไม่เห็นโฆษณาใดที่มันบอกว่า เพราะอะไรมันถึงช่วยในเรื่องนั้น

แต่จริงๆ แล้ว การเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดสามารถทำได้โดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์เลยฮะ บทความใน WikiHow ร่วมแต่งโดย Luba Lee (Master’s Degree, Nursing, University of Tennessee Knoxville) ซึ่งยังดูมีความน่าเชื่อถือ และตรรกะไม่ป่วยเท่าบทความอวยสรรพคุณน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ เขาพูดถึงวิธีในการเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดดังนี้

  • หายใจเข้าลึกๆ อย่างช้าๆ ลงมาเหลือซักนาทีละ 10 ครั้ง
  • ฝึกการกำหนดลมหายใจเข้าออก ไม่ว่าจะขอคำปรึกษาจาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือไปลองฝึกพวกโยคะหรือนั่งสมาธิดูก็ได้
  • ลองไอดูซัก 2-3 ครั้ง (แต่อย่าไปไอใส่ใครล่ะ ช่วงนี้ยิ่งกลัวๆ กัน) มันจะช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น
  • ถ้าคุณเป็นคนสูบบุหรี่ ก็งดสูบบุหรี่ซะ สูดควันเข้าปอดแทนที่จะเป็นอากาศ มันจะทำให้ระดับออกซิเจนสูงได้ไง นอกจากนี้ บุหรี่ยังเป็นภัยต่อปอดอีกเหอะ แล้วปอดมันคืออวัยวะที่แลกเปลี่ยนออกซิเจนในเลือดให้เรานะ
  • หาโอกาสไปสัมผัสกับอากาศสดชื่นซะบ้าง
  • ลดน้ำหนักซะ ถ้าอ้วนเกินไป เพราะแม้ว่าจะไม่ได้ช่วยให้ระดับออกซิเจนดีขึ้น แต่มันก็จะช่วยให้ร่างกายใช้ออกซิเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทำเองได้ง่ายๆ แบบนี้ แล้วจะต้องดื่มน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันไปช่วยให้ร่างกายดูดซึมออกซิเจนได้ดีขึ้นได้ยังไงอีก อ้อ! แล้วที่บอกว่าน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์ช่วยให้เลือดลมเดินสะดวก เพราะว่ามันทำให้เลือดเป็นด่าง ก็โม้ทั้งเพนะครับ อย่างที่บอก น้ำมันลงท้อง เจอกรดในกระเพาะเรา มันก็จบแล้วความเป็นด่าง และเลือดเรามันก็เป็นด่างอยู่แล้ว หากเรามีภาวะเลือดเป็นกรด เราต้องไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยสาเหตุ (เพราะมันเกิดได้จากหลายสาเหตุ) แล้วจึงทำการรักษานะครับ การรักษามันขึ้นอยู่กับสาเหตุ ประเภท และระดับความรุนแรง การพยายามดื่มน้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลน์เพื่อแก้ปัญหาเอง อาจทำให้ชิบหายกว่าเดิม

แล้วจริงๆ แล้ว น้ำดื่มควรจะมีค่า pH เท่าไหร่?

จริงๆ ที่ผมเคืองที่สุดคือตอนที่ ศ.ดร.นพ. สมศักดิ์ วรคามิน อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอดีตอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เขียนไว้ในหนังสือ น้ำดื่มในอุดมคติ (Water of Life) ซึ่งมีข้อนึงบอกว่า “น้ำดื่มที่ดีควรมีความเป็นด่างอ่อนๆ pH ระหว่าง 7.25-8.50 เพื่อช่วยกำจัดความเป็นกรดและของเสียในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีภาวะที่สมดุล” ซึ่งผมขอแย้งเต็มๆ ด้วยเหตุผลต่างต่างนานาที่กล่าวมาในข้างต้นเลยฮะ บอกตรงๆ เคืองมากที่ท่านอาศัยความเป็นนักวิจัยดีเด่นของสภาวิจัยแห่งชาติเอามาสร้างความน่าเชื่อถือในเรื่องนี้ และแกก็ไปเดินสายบรรยายเรื่องจำพวก “น้ำป้องกันมะเร็ง” แล้วก็แนวคิด “น้ำพลังแรงแม่เหล็ก” อีกด้วยนะ (ดูคลิปด้านล่าง)

ในคลิปข้างต้น พูดถึงน้ำป้องกันมะเร็ง ซึ่งเราก็ได้เห็นอยู่แล้วว่ามันไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่พิสูจน์เรื่องนี้ได้ในปัจจุบันนี้ และไอ้น้ำแรงแม่เหล็กเนี่ย อาจารย์เจษฎาก็จับโป๊ะไปทีนึงแล้วเมื่อปีที่แล้ว

แล้วบทความเรื่องน้ำดื่มในอุดมคติของแกนี่แบบ โดนเอาไปแปะไว้บนหน้าบทความบนเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐด้วย เท่าที่ผมเห็นมีสองที่ ที่นึงผมแจ้งไปให้ทราบ เพื่อพิจารณาประสานงานถอดบทความออกแล้ว เพราะไม่อยากให้โดนเอาไปอ้างอิงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

คือจริงๆ แล้ว ค่า pH ในน้ำอ่ะ มันสำคัญนะ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการรักษาโรคครับ มันเกี่ยวกับเรื่องคุณภาพน้ำต่างหาก อย่างที่บอกว่าน้ำสะอาดทั่วไปเลยอะ ค่า pH มันจะอยู่ที่ประมาณ 7 คือ เป็นกลาง การที่ค่า pH มันเปลี่ยนแปลงเป็น กรด หรือ ด่าง มันจะสื่อให้เห็นถึงการปนเปื้อนของสารเคมีหรือแร่ธาตุ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของน้ำ

องค์การอนามัยโลก (WHO) มีเอกสารชิ้นนึงชื่อว่า WHO Guidelines for Drinking-water ที่เป็นคำแนะนำสำหรับคุณภาพของน้ำดื่ม ซึ่งพูดถึงค่า pH ของน้ำเอาไว้แบบนี้ (อ่านหน้า 226a ผมขอถือโอกาสแปลเป็นไทยให้อ่าน แต่แปลให้ไม่ได้ครบนะ เน้นเนื้อๆ)

ถึงแม้ว่าค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) จะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค แต่มันก็เป็นหนึ่งในค่าพารามิเตอร์สำคัญในเรื่องของคุณภาพน้ำ การควบคุมค่าความเป็นกรด-ด่างอย่างระมัดระวังจึงมีความจำเป็นในทุกขั้นตอนของการบำบัดน้ำ เพื่อให้แน่ใจถึงความใสของน้ำและการฆ่าเชื้อน้ำ สำหรับการฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนนั้น ค่า pH ควรจะต่ำกว่า 8 เพราะหากค่า pH ต่ำกว่านี้ (pH เป็น 7 หรือต่ำกว่า) จะก่อให้เกิดการกัดกร่อน จึงต้องมีการควบคุมค่า pH ของน้ำที่เข้าสู่ระบบประปาเพื่อลดการกัดกร่อนของระบบประปา ทั้งในระบบหลักและภายในบ้าน … หากไม่ลดการกัดกร่อนลง จะส่งผลต่อการปนเปื้อนของน้ำดื่ม และยังมีผลต่อรสชาติและลักษณะของน้ำอีกด้วย ค่า pH ของน้ำที่เหมาะที่สุด มันแตกต่างกันออกไปตามองค์ประกอบของน้ำ และวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างระบบประปา แต่ค่า pH จะอยู่ในช่วง 6.5-8.5 ซึ่งค่า pH ที่สุดขั้วเนี่ย อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการที่ระบบบำบัดเสีย หรือวัสดุที่บุผิวท่อซีเมนต์ไม่เพียงพอ เป็นต้น และที่ย้ำไว้ท้ายสุดคือ WHO ไม่ได้มีคำแนะนำด้านสุขภาพใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับค่า pH ของน้ำเลย

หรือให้ผมสรุปง่ายๆ เลยนะ ค่า pH ไม่ได้มีผลด้านสุขภาพใดๆ เลย และที่เขาพยายามให้น้ำประปามีลักษณะด่างก็เพราะว่าถ้ามันเป็นกรด มันก็ไปกัดกร่อนท่อประปาสิจ๊ะ แถมให้อีกนิด กรมควบคุมมลพิษก็กำหนดมาตรฐานคุณภาพน้ำตาม WHO เลยครับ คือให้ pH อยู่ที่ระหว่าง 6.5-8.5 (สูงสุดอนุโลมได้ 9.2 คือ ไม่ใช่ค่าที่ให้เครื่องหมายมาตรฐานได้ และอนุโลมให้เป็นการชั่วคราว)

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ยังคิดว่าดื่มน้ำอัลคาไลน์ยังมีประโยชน์อยู่อีกไหมล่ะ?

แชร์โลด:

  • Tweet
  • Print

โพสต์อื่นๆ ที่อาจสนใจ

Related tags : Alkaline waterHoax
Share:

Previous Post

รีวิว WD Red 14TB ฮาร์ดดิสก์สำหรับ NAS ความจุบิ๊กเบิ้ม

ภาพกราฟิก ฮาร์ดดิสก์ WD Red

Next Post

ทำไมฮาร์ดดิสก์ แฟลชไดร์ฟ หรือ SSD มีความจุไม่เต็มตามที่ป้ายบอกล่ะ?

SanDisk Extreme Pro USB 3.1 Solid State Flash Drive เสียบกับ USB dongle กำลังวางอยู่บนโน้ตบุ๊ก

Related Articles

ภาพกราฟิกแสดงไอคอนของแอป Clubhouse และตัวอย่างหน้าจอแอป พร้อมข้อความว่า "แอป Clubhouse มันคืออะไร ทำไมอยู่ๆ คนมาฮิต? แล้วจะเข้าไปสมัครใช้งานได้ยังไง?" รีวิวบ่นเรื่อยเปื่อย

แอป Clubhouse คืออะไร ทำไมทั่วโลกอยู่ๆ ตื่นตัวใช้กัน?

Microsoft 365 บ่นเรื่อยเปื่อย

Microsoft 365 ดียังไง ทำไมถึงควรสมัครใช้?

ภาพของเท้าเจ้าบ่าวในกางเกงและรองเท้าหนังสีดำ กับชายกระโปรงชุดเจ้าสาวสีขาวของเจ้าสาว บ่นเรื่อยเปื่อยรีวิว

รีวิวการจัดงานแต่งงานที่สโมสรทหารบก

ร้านขายของที่ระลึกแห่งหนึ่งในอ่าวนาง แม้จะเปิด แต่ก็ต้องปิดป้ายลดราคาเพื่อเรียกลูกค้า บ่นเรื่อยเปื่อยเที่ยวไปทั่วไทย

แวะมาเที่ยวอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ได้เห็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กับการท่องเที่ยว

หน้าจอเริ่มเกม Super Mario Bros 2 เวอร์ชันญี่ปุ่น บ่นเรื่อยเปื่อย

ความลับของ Super Mario Bros 2 ที่ตอนเด็กไม่เคยสังเกต

Leave a Reply Cancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Translate this blog

อย่าลืมกดไลค์

อย่าลืมกดไลค์

ล่าสุดบ่นอะไรไป?

My Tweets

สับตะไคร้ติดตามบล็อกของผม

ใส่อีเมลของคุณที่เพื่อสมัครเป็นสมาชิกของบล็อกนี้ และรับการแจ้งโพสใหม่ผ่านทางอีเมล

© 2001-2020 kafaak.blog | Theme By WPOperation
ประกาศเรื่องการใช้คุกกี้ในเว็บไซต์นี้
เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บข้อมูลการเยี่ยมชม หากยอมรับกรุณาคลิกปุ่มยอมรับด้านล่าง เพื่อยืนยันการเยี่ยมชมต่อ หากคุณไม่ยอมรับคุกกี้ ให้คลิกปุ่มปฏิเสธ แล้วเราจะนำคุณไปที่ Google.com แทน หากสงสัยว่าเราใช้คุกกี้ทำอะไร อ่าน นโยบายคุกกี้ เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม

ยอมรับ ปฏิเสธ
คำประกาศการใช้คุกกี้

Privacy Overview

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these cookies, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may have an effect on your browsing experience.
Necessary
Always Enabled

Necessary cookies are absolutely essential for the website to function properly. This category only includes cookies that ensures basic functionalities and security features of the website. These cookies do not store any personal information.

Non-necessary

Any cookies that may not be particularly necessary for the website to function and is used specifically to collect user personal data via analytics, ads, other embedded contents are termed as non-necessary cookies. It is mandatory to procure user consent prior to running these cookies on your website.

SAVE & ACCEPT