อัพเดตล่าสุดของ QNAP NAS คือการเพิ่มฟีเจอร์ HybridMount เข้ามา เพื่อช่วยในการเชื่อมต่อและบริหารจัดการ Cloud Storage ได้ง่ายดายขึ้น และใช้งานได้หลากหลายขึ้น เลยอดไม่ได้ที่จะต้องมาเขียนเล่าให้อ่านกันหน่อยว่าเจ้านี่มีดียังไงบ้าง เพราะมันเป็นประโยชน์มาก ทั้งกับผู้ใช้งานระดับองค์กร ยันผู้ใช้งานทั่วไป เพราะสมัยนี้ เราไม่ได้มีแค่ Local storage แล้ว หลายๆ องค์กร และหลายๆ คน ก็ใช้ Cloud storage ควบคู่ไปด้วย และ HybridMount นี่ จะช่วยเชื่อมโยงการใช้งาน QNAP NAS กับ Cloud Storage ได้ดีขึ้น
FileStation ของ QNAP NAS มันมีฟีเจอร์นึงชื่อว่า Remote Mount ที่ช่วยให้เราสามารถเชื่อม (Mount) บริการ Cloud storage ต่างๆ ซึ่งรองรับบริการชื่อดังๆ ที่เป็นที่นิยมในการใช้งานมากมาย หรือ Remote device (เช่น QNAP NAS ตัวอื่นๆ) เข้ากับ QNAP NAS แล้วบริหารจัดการผ่าน FileStation ได้ แต่มันมีข้อจำกัดตรงที่ตัวไฟล์นั้นมันไม่ได้อยู่บน QNAP NAS แต่อย่างใด เลยทำให้ความเร็วในการใช้งานไม่สูงมาก
ฟีเจอร์ HybridMount เลยเข้ามาช่วยครับ มันเพิ่มโหมดการใช้งานแบบ Cloud File Gateway เข้ามา ซึ่งมันเพิ่มฟีเจอร์การทำแคชของไฟล์ข้อมูลจาก Cloud storage หรือ Remote device เพื่อให้สามารถเข้าถึงไฟล์ได้รวดเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องรอดาวน์โหลดมาจากทางอินเทอร์เน็ตทุกครั้ง นอกจากนี้ มันยังรองรับโปรโตคอลในการถ่ายโอนข้อมูลอย่าง SMB, NFS และ AFP ด้วย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ อุปกรณ์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับ NAS จะสามารถเข้าถึงข้อมูลบน Cloud storage ผ่านโปรโตคอลเหล่านี้ได้ โดยมี QNAP NAS ทำตัวเป็น File gateway

ตารางด้านล่างจะเปรียบเทียบฟีเจอร์ของ HybridMount กับ Remote Moun แบบเดิม สังเกตว่าในการใช้งานฟีเจอร์นี้ เราจะต้องมีไลเซ่นส์ด้วย ซึ่งสำหรับคนทั่วไป ทาง QNAP NAS ก็จะมีไลเซ่นส์มาให้ 2 ไลเซ่นส์ใช้ฟรีๆ แล้ว ซึ่งก็น่าจะเพียงพอสำหรับคนทั่วๆ ไปแล้ว ส่วนผู้ใช้งานระดับองค์กร ถ้าต้องการเพิ่ม ก็สามารถซื้อไลเซ่นส์เพิ่มได้เท่าที่ต้องการ
HybridMount File-based Gateway | FileStation Remote Mount | |
รูปแบบการทำงาน | ทำการเชื่อมต่อกับบริการ Cloud storage แล้วเปิดใช้งานแคชเพื่อเซฟไฟล์บางส่วนไว้ในพื้นที่แคชของ HybridMount | ทำการเชื่อมต่อกับบริการ Cloud storage เฉยๆ |
จำนวนบริการ Cloud ที่เชื่อมต่อได้ | QNAP ให้ไลเซ่นส์ฟรี 2 ไลเซ่นส์ (และสามารถซื้อไลเซ่นส์เพิ่มได้ตามที่ต้องการ) | สามารถเชื่อมกับบริการ Cloud ได้ไม่จำกัด |
ความเร็วในการเข้าถึงไฟล์ | ไฟล์ที่อยู่ในแคช จะสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว (Low-latency access) ส่วนไฟล์ที่ไม่ได้อยู่ในแคช ก็จะขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเทอร์เน็ต | ความเร็วในการเข้าถึง ขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเทอร์เน็ต |
ไฟล์บน Cloud storage สามารถเข้าถึงจาก File Station ได้ | ใช่ | ใช่ |
ไฟล์บน Cloud storage สามารถเข้าถึงผ่านโปรโตคอล SMB/ NFS/ AFP | ใช่ | ไม่ใช่ |
บริหารจัดการไฟล์บน Cloud storage ผ่าน QTS apps | ใช่ | ไม่ใช่ |
ซิงก์ไฟล์ไปยัง Cloud storage | ระบบทำการซิงก์ตามเวลาที่กำหนด เพื่อให้เข้าถึงไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว | ระบบทำการซิงก์ไฟล์เฉพาะตอนที่เชื่อมต่อกับ Cloud storage ท่านั้น |

อย่างไรก็ดี ประสิทธิภาพในการให้บริการของ HybridMount นั้นขึ้นอยู่กับสเปกของฮาร์ดแวร์ของ QNAP NAS ด้วยนะครับ ตัวแอปจะทำการประเมินสเปกของฮาร์ดแวร์ที่เราใช้ แล้วกำหนดมาให้เลยว่าสามารถทำการอัพโหลดและดาวน์โหลดไฟล์พร้อมๆ กันได้กี่ไฟล์ อย่างเช่น TS-453A นี่ได้อัพโหลดและดาวน์โหลดฝั่งละ 20 ไฟล์

แต่เพราะว่า HybridMount มีการใช้แคชเพื่อเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงไฟล์บน Cloud storage ดังนั้นสิ่งที่ต้องระวังคือการเข้าถึง Cloud storage จากหลายอุปกรณ์ที่ไม่ได้เข้าถึงผ่าน QNAP NAS นะครับ ฟีเจอร์นี้เขาออกแบบมาให้ เมื่อใช้แล้วทุกอุปกรณ์ควรจะเข้าถึงข้อมูลผ่าน QNAP NAS เป็นหลักนะครับ และจริงๆ แล้ว มันให้ประโยชน์แก่ผู้ใช้งานระดับองค์กรมากๆ ด้วย เพราะสามารถช่วยลดแบนด์วิธในการเข้าถึง Cloud storage ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ เพราะอุปกรณ์ลูกข่ายทั้งหลายแหล่ จะเข้าถึงผ่านไฟล์ที่ถูกเก็บไว้บนแคชของ HybridMount แทน
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HybridMount จากวิดีโอของ QNAP นี่ได้ครับ