เมื่อราวๆ ปลายเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัว Startup ด้านรถยนต์รายใหม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้บริหารของ Startup รายนี้เป็นอดีตผู้บริหาร BMW ที่ออกมาเปิดบริษัทรถยนต์เป็นของตัวเอง โดยเน้นไปที่รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV แต่มีการฉีกรูปแบบการทำธุรกิจซะใหม่ ด้วยแนวคิดว่า ผู้ใช้งานไม่ต้องซื้อ แต่ใช้วิธีจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือนแทน หรือพูดง่ายๆ คือ เช่ารถขับกันเป็นรายเดือนนี่แหละ
โดยหลักๆ แล้ว Canoo (ฝรั่งออกเสียง คา-นู) ก็คือรถยนต์ไฟฟ้า หรือที่ฝรั่งเรียกว่ารถ EV ที่มีความสามารถในการวิ่งในระยะทาง 250 ไมล์ หรือราวๆ 400 กิโลเมตร ได้ในการชาร์จเพียงครั้งเดียว และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 80% ได้ภายใน 30 นาที และมีการใส่เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิคเข้ามาถึง 12 ตัว กล้องอีก 7 และเรดาห์อีก 5 ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยในการขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ

แต่จุดเด่นสุดๆ ของเจ้า Canoo ที่ทำให้คนพูดถึงกันก็มีสองเรื่องหลักๆ คือ เรื่องการออกแบบ และ เรื่องของโมเดลการทำธุรกิจครับ
Canoo การออกแบบที่ฉีกกฎการออกแบบรถยนต์เดิมๆ
อันดับแรกเลย คงเพราะว่าต้องการให้เป็นรถยนต์แบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแห่งอนาคต ดีไซน์ของตัวรถแทบจะทั้งคันนี่มีกระจกที่มองได้รอบทิศทางมาก นอกจากนี้คอนโซลหน้ารถก็ถูกถอดออกไปจนเกลี้ยงเลยครับ เหลือแค่พวงมาลัยยื่นออกมา (การขับเคลื่อนแบบ Manual ยังจำเป็นอยู่ แมักับรถยนต์ที่มีความสามารถในการขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติ)

และในขณะที่รถยนต์แบบเดิมๆ ยังคงใช้ระบบ Mechanic ในการบังคับล้อ คันเร่ง และเบรก เจ้า Canoo นี่ใช้การออกแบบที่เรียกว่า Steer-by-wire หรือใช้สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมรถทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการบังคับล้อ คันเร่ง และเบรก ส่งผลให้ทั้งประหยัดพื้นที่ ประหยัดชิ้นส่วนอะไหล่ และที่สำคัญ ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถลงไปได้อย่างมาก (แต่แน่นอน ความเสี่ยงก็จะอยู่ตรงที่การทำงานของพวกสายไฟนำสัญญาณพวกนี้แหละ)

ดีไซน์ภายในรถนี่ยังกะรถลีมูซีนครับ เบาะหลังเป็นแบบตัวยูยังกะโซฟา ส่วนเบาะหน้าก็สามารถหมุน 360 องศา กลับมาด้านหลังได้ ทำให้ตั้งวงคุยกับเพื่อนๆ ในรถได้เลย นี่ถ้าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติไว้วางใจได้สุดๆ นี่แทบจะเรียกว่าเหมือนนั่งอยู่กับบ้านเลยเหอะ (แต่ยังไงก็ตาม คนขับก็ควรจะอยู่หลังพวงมาลัย เผื่อกรณีฉุกเฉินอยู่ดีนะ)

นอกจากนี้ การออกแบบรถยนต์ในแบบที่เรียกว่าสเก็ตบอร์ด ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ คือ เราจะเห็นมอเตอร์สองชุดที่อยู่ตรงล้อคู่หน้าและหลัง แล้วแบตเตอรี่หายไปไหนล่ะ? คำตอบก็คือ มันอยู่ตรงฐานตัวรถไง แบบเดียวกับพวกสเก็ตบอร์ดไฟฟ้า และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอย่าง Xiaomi M365 หรือ Ninebot Kickscooter MAX ครับ ซึ่งนั่นทำให้พื้นที่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังมันโล่ง

ปิดท้ายด้วยการออกแบบที่เรียกว่า Bring your own screen คือ เจ้านี่จะไม่ได้มีพวกคอนโซลและหน้าจอมาให้นะ แต่ว่าจะให้ผู้ขับขี่เอาสมาร์ทโฟนมาจิ้มเอง ลงแอปไว้สิ แล้วพวกฟีเจอร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขับขี่โดยตรง เช่น ระบบนำทาง เพลง หรือ ระบบปรับอากาศ จะสามารถควบคุมผ่านแอปบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของเราได้เลย

หมดยุคของการเป็นเจ้าของรถยนต์ กับโมเดล Subscription
ทางผู้บริหาร Canoo มองว่ารูปแบบธุรกิจรถยนต์แบบเดิมๆ ที่เจ้าของรถจะต้องซื้อขาดจากตัวแทนจำหน่าย แล้วต้องไปเสียเวลากับการจดทะเบียนรถ แถมยังต้องซื้อประกัน บำรุงรักษา แถมราคารถก็ตกลงทันทีเมื่อถอยออกจากศูนย์ มันล้าสมัยไปแล้ว
Canoo เลยให้บริการลูกค้าในรูปแบบ Subscription แทน โดยจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน ในราคาที่เป็นมิตร (เท่าไหร่ยังไม่รู้ ใน Press release ที่ทาง Canoo ให้ดาวน์โหลดบนเว็บไม่ได้บอก … แต่ฟังจากผู้คร่ำหวอดในวงการรถยนต์ของสหรัฐเขาบอกว่า อาจจะแบบ เดือนละ $300-$400 อะไรแบบนี้) โดยค่าบริการรายเดือนนี้ อาจจะรวมบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การจดทะเบียน การบำรุงรักษา ประกันรถยนต์ และการชาร์จแบตเตอรี่ไว้เรียบร้อยแล้ว และสามารถทำได้ผ่านทางแอปเลย
ก็ไม่รู้ว่ารูปแบบธุรกิจแบบนี้จะไปได้สวยขนาดไหนนะครับ แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็อาจจะเวิร์กก็ได้นะ และหลังๆ ผู้คนก็เริ่มชินกับการใช้บริการแบบรายเดือนอยู่แล้วด้วย ถ้าเกิดว่าค่าบริการมันไม่ได้โหดไปกว่าการเช่ารถขับต่อเดือน หรือการผ่อนรถและเปลี่ยนรถบ่อยๆ มันอาจจะดีก็ได้ ใครจะรู้ แต่ในระยะยาว ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า Canoo จะมีการบำรุงรักษารถยังไง เพื่อให้แน่ใจว่าแม้รถยนต์จะถูกเปลี่ยนมือไปรัวๆ ก็ยังคงมีสภาพดูดี ผู้ใช้งานรายถัดไปก็ยังยินดีสมัครใช้บริการเอาไปขับ เพราะเราก็เห็นๆ กันอยู่ว่ารถยนต์เช่ามันสภาพเป็นยังไงเนอะ
ระบบนี้จะมาเมืองไทยไหม? ผมว่าคงไม่ เพราะลำพังแค่ขับเคลื่อนอัตโนมัตินี่ ประเทศไทยก็ไม่พร้อมแล้ว แล้วกฎหมายในการให้บริการรถยนต์แบบ Subscription นี่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าประเทศไทยเรามีกฎหมายอะไรเฉพาะทางอีกไหม … ตอนนี้ เราให้อเมริกันชนลองใช้ไปก่อนแล้วกันเนอะ เพราะยังไงซะ กว่าบริษัท Canoo จะพร้อมให้บริการก็โน่นครับ ปี 2564 นู่น