ปฏิบัติการตามล่าอุปกรณ์สำหรับใช้งานในออฟฟิศของผมทำให้ผมมองหาเมาส์ตัวใหม่ไว้ใช้กับ Microsoft Surface Pro 3 ที่ผมเอาไปใช้เป็นเครื่องตั้งโต๊ะไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ซื้อคีย์บอร์ด Fantech Optimax MK885 ไปใช้แล้ว (ไม่รีวิวนะ เพราะเห่อ อยากใช้ไวๆ เลยเอาไปเสียบใช้ที่ออฟฟิศไปแล้ว นี่เลยแปะลิงก์ให้ไปดู YouTube รีวิวแทน) ตอนนี้ได้ Delux M618X ที่เป็นเมาส์แบบที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์มาใช้ ก็ไม่ใช่อะไร แค่อยากลองเมาส์ประเภทนี้ดูบ้างว่าเป็นยังไง แล้วก็ถือโอกาสมารีวิวให้ได้อ่านกันครับ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
รีวิวครั้งนี้ ซื้อมาเอง ใช้เอง ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากใครทั้งสิ้นครับ ความเห็นใดๆ ที่ปรากฏบนบล็อกตอนนี้ เป็นความเห็นจากผมเองคนเดียวล้วนๆ ครับ ส่วนลิงก์สำหรับไปซื้อที่แปะด้านล่าง ก็คือลิงก์ที่ไปที่ร้านเดียวกับที่ผมซื้อมา เพราะมันก็น่าจะเชื่อถือได้ดีสุดจริงปะ เพราะผมซื้อแล้วได้ของงิ
ร้านที่ผมซื้ออยู่บน Lazada ฮะ แต่ของมันต้องส่งมาจากต่างประเทศ (จีนนั่นเอง) สนนราคาอยู่ที่ 1,200 บาท แล้วก็มีค่าส่งต่างหากอีก (ส่งช้าหน่อยก็ 36 บาท ส่งเร็วหน่อยก็ 45 บาท) แต่ตอนที่ผมซื้อเนี่ย ร้านมันมีคูปองลด 120 บาท ถ้าซื้อเกิน 1,000 บาท และ Lazada ก็มีคูปองลดค่าส่งให้ 45 บาท และลดอีก 100 บาทด้วย ถ้าซื้อเกิน 899 บาท (มั้ง ถ้าจำไม่ผิด) สรุป ผมเลยได้เจ้านี่มาในราคา 980 บาทถ้วน สั่งของวันที่ 2 ตุลาคม ได้ของวันที่ 10 ตุลาคม ก็ราวๆ 1 สัปดาห์แหละ

ของที่ให้มาภายในกล่อง ก็มีตัวเมาส์ Delux M681X คู่มือการใช้งานภาษาอังกฤษ และสายชาร์จแบบ USB Type-C แบบไนล่อนถักซึ่งดูดีทีเดียว มีตีนตุ๊กแกรัดสายมาเรียบร้อย

เมาส์ตัวนี้ใหญ่เอาเรื่อง พวกที่บอกว่าเป็นเมาส์ที่ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomic mouse) ดีไซน์เป็น Vertical mouse เนี่ย บอกก่อนเลยใหญ่ทุกตัว (ฮา) จะใหญ่มากหรือใหญ่น้อยก็เท่านั้น ผมเลือกตัวนี้เพราะว่ามันเป็น Vertical mouse ที่สามารถปรับระดับการเอียงได้ คือ ผมกลัวว่าถ้ามันเอียงตายตัว มันอาจจะไม่เข้ากับข้อมือของผมอ่ะ ก็เลยยอมจ่ายแพง ซื้อรุ่นนี้มาลอง ว่างั้น
Delux M618X ตัวนี้ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้สามรูปแบบ คือ
- เสียบ Dongle ใช้คลื่นความถี่ 2.4GHz แบบนี้มีความเสถียรสูงหน่อย แต่ข้อเสียคือ ต้องเสียบ Dongle เสียช่อง USB ไป 1 ช่อง
- เชื่อมต่อ Bluetooth 3.0
- เชื่อมต่อ Bluetooth 4.0

มาดูที่หน้าตาของมันก่อนครับ เมาส์แบบแนวตั้ง หรือ Vertical mouse เนี่ย มันจะมีฐานบานๆ เพื่อให้รองรับตัวเมาส์ และวางอุ้งมือได้สะดวก เจ้าตัวนี้มีปุ่มคลิกซ้าย คลิกขวา ตามแบบฉบับเมาส์ทั่วไป แต่ปุ่มที่อยู่ตรงกลางนั่น มันไม่ใช่ปุ่มกลาง หรือ Windows key แบบที่เมาส์หลายๆ ยี่ห้อเขาทำกัน แต่ว่าเป็น DPI switch ที่เอาไว้ปรับความไวของเมาส์ระหว่าง 800/1,600/2,400/4,000dpi
อะไรนะ? ความไวของเมาส์? มันคืออัลไล?
ความไวของเมาส์ ก็คือตัวที่จะบอกว่าลูกศรบนหน้าจอมันจะวิ่งไปเร็วแค่ไหน เมื่อลากเมาส์ไปในระยะทางนึง มีหน่วยเป็น DPI (Dot Per Inch) หมายความว่า เมื่อลากเมาส์ไป 1 นิ้วแล้ว ลูกศรจะเคลื่อนตัวไปกี่พิกเซลบนหน้าจอ เช่น ถ้าบอกว่า 800dpi ก็แสดงว่าลากเมาส์ไป 1 นิ้ว ก็จะเลื่อนไป 800 พิกเซล เป็นต้น
ทีนี้ถามว่าแล้วตั้งไว้เท่าไหร่ดี ก็อยู่ที่ว่าคอมพิวเตอร์เราหน้าจอมีกี่พิกเซล และเราต้องการให้ลากเมาส์แล้วลูกศรไปไวแค่ไหน ยิ่งค่าน้อยยิ่งไปช้า ถ้าหน้าจอเรามีความละเอียดสูง เช่น 4K อะไรแบบนี้ ก็อาจจะอยากปรับให้ค่ามันสูงๆ หน่อย เพราะไม่งั้นกว่าจะลากลูกศรเมาส์ไปทั่วจอได้ ปาดเมาส์กันเหงื่อแตกเลยครับ

ส่วน Scroll wheel ของเมาส์ ที่ชาวบ้านเขาออกแบบให้อยู่ระหว่างปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวา เจ้านี่จัดมันอยู่ทางด้านซ้ายของปุ่มคลิกซ้าย หรือ ด้านบนสุดของตัวเมาส์นั่นเอง ออกแบบมาให้เวลาเราจับเมาส์แล้ว เราสามารถหมุน Scroll wheel นั้นได้ด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้พร้อมๆ กัน เหมือนการหมุนปุ่มเลย

ส่วนอีกด้านนึงของเมาส์ มีสองปุ่มที่อยู่ในตำแหน่งที่ใช้นิ้วโป้งกดได้สะดวกประมาณนึง คือปุ่ม Forward และ Backward ซึ่งจากที่ผมลอง มันคือปุ่มลูกศรครับ ซ้ายและขวา มันเอาไว้เลื่อน Cursor ไปข้างหน้าหรือถอยหลังได้

ตัวฐานด้านหน้า มันมีลูกบิดอยู่ อันนี้เอาไว้ล็อกการปรับการเอนของตัวเมาส์ ซึ่งปรับการเอนได้ระหว่าง 53-73 องศาจากพื้นราบ แล้วก็มีพอร์ต USB Type-C เอาไว้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ … แอบดีใจที่เจ้านี่หันมาใช้พอร์ตใหม่ๆ อย่าง USB-C แล้ว คือ ผมว่า Micro USB มันควรจะถูกปลดระวางได้แล้วจริงๆ เหอะ จะได้ไม่ต้องพกสายชาร์จหลายๆ แบบให้วุ่นวาย

ด้านใต้ของตัวเมาส์ มียางรองเอาไว้ 4 ด้าน มีสเปกของเมาส์บอกเอาไว้ แล้วก็มีเซ็นเซอร์ของเมาส์ กับไฟ LED บอกโหมดการเชื่อมต่อเป็น B1 (Dongle 2.4GHz), B2 (Bluetooth 3.0) และ B3 (Bluetooth 4.0) โดยมีปุ่มกดกลมๆ เอาไว้เปลี่ยนโหมด และมีสวิตช์เปิดปิดอยู่ข้างๆ นอกจากนี้ก็มีช่องเก็บ Dongle ด้วย มันยึดเอาไว้ด้วยแรงแม่เหล็กครับ
สำหรับการใช้งาน ถ้าเกิดเราไม่ต้องการปรับแต่งอะไรเยอะแยะมากมาย แค่เชื่อมต่อเจ้าเมาส์นี่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ (รองรับ Windows XP/7/8/8.1/10 และ macOS) ก็พร้อมใช้แล้วครับ เลือกเอา อยากเชื่อมต่อผ่าน Wireless dongle หรือ Bluetooth แต่ข้อดีของการมีตัวเลือกในการเชื่อมต่อแบบไร้สายหลายแบบของเจ้านี่คือ ถ้าเรามีคอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง เราก็จะสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ด้วยวิธีการเชื่อมต่อแต่ละแบบได้ เช่น ผมต่อกับ Surface Pro 3 ของผมด้วย Wireless dongle แต่มาเชื่อมต่อกับ MacBook Pro ด้วย Bluetooth 4.0 แล้วไปต่อกับโน้ตบุ๊กอีกตัวด้วย Bluetooth 3.0 เวลาเราจะสลับเครื่อง เราก็แค่กดเปลี่ยนโหมดการเชื่อมต่อเท่านั้นเอง สะดวกมาก

ในส่วนของ macOS กับ Windows การใช้งาน Scroll wheel มันจะสวนทางกันอยู่นิดหน่อย ของ macOS ถ้า Scroll ลง มันจะกลายเป็นเลื่อนหน้าจอขึ้น ในขณะที่ Windows ถ้า Scroll ลง มันก็จะเลื่อนหน้าจอลง … ถ้าอยากให้มันไปทางเดียวกัน เป็นแบบที่เราคุ้นเคยกันบน Windows เราก็ไปที่หน้าจอการตั้งค่าเมาส์ของ macOS แล้วเอาติ๊กถูกตรง Scroll direction: Natural ออกครับ แต่มันจะส่งผลกระทบกับการใช้ TouchPad ของ MacBook Pro ไป ฉะนั้น ผมไม่ค่อยอยากแนะนำให้ทำ
บน macOS เราจะปรับค่าได้ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นบน Windows ละก็ ไปดาวน์โหลดซอฟต์แวร์มาจากเว็บไซต์ของ Delux ที่ http://www.deluxworld.com/en/service/download/ ครับ สำหรับเมาส์ตัวนี้เลือกรุ่นเป็น M618X GX นะครับ เพราะเป็นรุ่นไร้สาย (M618X BU เป็นรุ่นแบบมีสาย) ซอฟต์แวร์ตัวนี้จะให้เราสามารถตั้งค่าว่าปุ่มต่างๆ เอาไว้ทำอะไรได้บ้าง ซึ่งมันมีตัวเลือกให้เลือกเยอะแยะมากมาย แต่ค่าเริ่มต้นของ Windows และ macOS จะเป็นแบบนี้
ปุ่มที่ | หน้าที่บน macOS | หน้าที่บน Windows |
1 | คลิกซ้าย | คลิกซ้าย |
2 | คลิกขวา | คลิกขวา |
3 | Scroll wheel | Scroll wheel |
4 | เลื่อน Cursor ไปทางขวา | Forward หน้าเว็บ |
5 | เลื่อน Cursor ไปทางซ้าย | Backward หน้าเว็บ |
มันต่างกันแค่ปุ่ม Forward กับ Backward เท่านั้นแหละ … อ้อ! ในคู่มือมันบอกว่า บน macOS ถ้ากดปุ่ม Forward หรือ Backward ค้างไว้ 3 วินาที เราจะใช้ปุ่มนี้สลับหน้าจอได้ แต่ผมลองกดแล้ว มันไม่ได้อ่ะ
เมาส์นี่มันยังกะเมาส์สำหรับเล่นเกม เพราะมีการติดไฟ LED แบบ RGB มาให้ด้วย เราสามารถเปลี่ยนโหมดการเปล่งแสงของมันได้ ด้วยการกดปุ่ม DPI ค้างไว้ แล้วเลื่อน Scroll wheel เอาครับ
แต่จากสเปกของเจ้านี่ ที่มีความไวของเมาส์ให้เลือกแค่ 4 ระดับ คือ 800/1,600/2,400/4,000dpi บอกเลยว่าไม่เหมาะกับการเล่นเกมซักเท่าไหร่ เพราะ 800dpi นี่พอเล่นเกมทั่วๆ ไปได้ แต่ถ้าเกมบางเกมที่ต้องการความแม่นยำของเมาส์มากๆ พวกเกมเมอร์อาจจะอยากได้ระดับ 100-200dpi เลยทีเดียว ความไวระดับนี้ มันเหมาะกับการใช้งานโปรแกรมทั่วๆ ไปมากกว่า แต่การที่สามารถปรับความไวได้ด้วยปุ่มเลย มันช่วยคนทำงานได้เยอะ แบบ เลือกซัก 1,600dpi เวลาท่องเว็บ พิมพ์งานเอกสารทั่วไป เช็กอีเมล ไรงี้ แต่พอจะทำงานกราฟิก ก็ปรับลงมาเหลือ 800dpi ก็จะทำงานละเอียดได้มากขึ้น เป็นต้น

อีกฟีเจอร์นึงที่ทำให้เหมาะกับการใช้งานเจ้านี่ในการทำงาน (มากกว่าเล่นเกม) ก็คือ Macro settings ที่ให้เราสามารถโปรแกรมการทำงานของเมาส์ได้ด้วยการบันทึกการเคลื่อนไหวของเมาส์ครับ บันทึกเสร็จ ก็สามารถเล่นย้อนซ้ำๆ ได้ มันเหมาะกับการเอาไว้ทำงานประเภท ซ้ำๆ เยอะๆ มากๆ
เรื่องแบตเตอรี่นั้น เจ้านี่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 800mAh ชาร์จด้วยพอร์ต USB-C และชาร์จเต็มได้ภายใน 2.5 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ใช้งานได้ราวๆ 30 วัน … ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้นานตามที่โม้ไหม เพราะยังไม่ได้ลองนานขนาดนั้น แต่ที่แน่ๆ ผมไม่คิดว่าจะใช้มันลุยยาวขนาดนั้นโดยไม่ชาร์จอยู่แล้ว แต่ที่ผมไม่ชอบคือ เจ้านี่ไม่มีวิธีการบอกระดับแบตเตอรี่ของมันที่ชัดเจน เลยตอบยากว่าแบตเตอรี่เหลืออยู่เท่าไหร่ แต่ตอนชาร์จอะ มันมีไฟ LED เล็กๆ อยู่ใกล้ๆ พอร์ต USB-C ซึ่งตอนชาร์จแบตเตอรี่มันจะติดเป็นสีแดง แต่ถ้าแบตเตอรี่เต็มแล้ว ไฟจะดับ

แล้วถามผมว่า ใช้แล้ว มันแบบ ช่วยเซฟเรื่องข้อมือจริงๆ ไหม? ก็ต้องบอกว่าช่วยครับ แต่จะมากหรือน้อย อยู่ที่ร่างกายของแต่ละคนแล้วมันทนทานต่อการบิดผิดธรรมชาติมากน้อยแค่ไหน เพราะการใช้เมาส์แบบปกติที่เราๆ ท่านๆ ใช้กันอยู่ มันมีการบิดแขนที่ฝืนธรรมชาตินิดหน่อย เวลาเราเอาแขนวางไว้ข้างลำตัว ซึ่งถ้ามาใช้เมาส์แนวตั้งแบบนี้ (ไม่จำเป็นต้องยี่ห้อนี้รุ่นนี้) มันก็จะช่วยให้ข้อมือเราอยู่ในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติกว่าได้ นอกจากนี้ เวลาเราเอาโน้ตบุ๊กมาวางบนตัก แล้วเอาเจ้าเมาส์นี่มาวางใช้ข้างๆ ตัว การที่เป็นเมาส์แนวตั้ง ทำให้มือจับใช้งานได้โดยไม่ต้องฝืนข้อมือมากกว่าด้วย ฉะนั้น โดยรวมแล้วมันก็ดีกว่าจริงๆ นั่นแหละ
บทสรุปการรีวิวเมาส์แนวตั้ง Delux M618X
สำหรับผม 980 บาท คุ้มครับ ใช้แล้วเวิร์กดี คิดว่าเพื่อนร่วมงานน่าจะแอบคิดในใจว่าผมนี่ช่างเวอร์วัง (ฮา) แต่การถนอมข้อมือเพื่อการทำงานมันก็สำคัญ จริงแมะ ยิ่งอายุเยอะขึ้นเรื่อยๆ แบบผมแล้วด้วย (โอ๊ย ถ้าเป็นซักตอนอายุ 25-30 ปีนี่จะไม่กังวลเลย … ฮา) แต่จริงๆ 1,200 บาทก็สู้เว้ยนะ
อย่างที่ได้รีวิวให้อ่านไป มันชัดเจนมากว่าเป็นเมาส์สำหรับทำงานมากกว่าเล่นเกม แม้ว่ามันจะบ้าใส่ไฟ LED มาให้ยังกะเกมมิ่งเมาส์ก็เหอะ บนเว็บมันเอง มันก็เรียกว่าเป็น Business vertical mouse หรือ เมาส์แนวตั้งสำหรับการทำงาน ดีไซน์ออกมาดู วัสดุก็ดูดี ดูคงทนดี ใช้แล้วก็ชอบ
ช่วยอธิบายเรื่อง macro setting ในการใช้ทำงานเพิ่มเติมหน่อยได้มั้ยคะ พอดีลองค้นดูแล้วมีแต่ใช้ในการเล่นเกมส์อะค่ะ
ในการทำงานมักจะไม่ค่อยช่วยอะไรมากครับ ยกเว้นว่าจะเป็นการเคลื่อนที่ของเมาส์และการคลิกที่มีรูปแบบตายตัว (ซึ่งการทำงานปกติจะไม่ค่อยเจออะไรแบบนี้) เกมจะได้ประโยชน์จากตรงนี้มากกว่า
ตอนนี้แบตมันยังชาร์จไฟได้ไหมครับ เห็นมีคนบอกว่าแบตในตัวมันเสียง่าย
ชาร์จได้ครับ ผมก็ยังชาร์จอยู่ จริงๆ ระหว่างชาร์จ ก็ใช้เป็นเมาส์ได้ด้วยนะ
รบกวนสอบถามหน่อยครับตอนนี้แบตยังชาร์จไฟเข้าไหม
สอบถามคะว่าเสียงคลิ๊กเมาส์เป็นแบบ Silent รึปล่าวคะ
ก็ยังดังกิ๊กๆๆ นะ แต่ดังไม่มาก ถ้าอยากได้แบบเบาๆ เลย ใช้ Microsoft ตัวนี้ดีกว่า https://kafaak.blog/2020/07/26/review-microsoft-sculpt-ergonomic/ (แต่แพงนะ)