Skip to content
  • กว่าจะมาเป็น … นายกาฝาก
  • รู้จักนายกาฝาก
  • ติดต่อนายกาฝาก
บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

บล็อกต๊อกต๋อยของนายกาฝาก

  • ข่าว
  • รีวิว
  • แบ่งปันความรู้
    • บทวิเคราะห์
  • บทความ How-to
    • QNAP User Guide
    • QNAP NAS 101
    • How-to อื่นๆ
  • Living with Ubuntu
  • บ่นเรื่อยเปื่อย
  • เที่ยวไปทั่ว
    • ไทย
    • เอเชีย
    • ยุโรป
  • ข่าว
  • รีวิว
  • แบ่งปันความรู้
    • บทวิเคราะห์
  • บทความ How-to
    • QNAP User Guide
    • QNAP NAS 101
    • How-to อื่นๆ
  • Living with Ubuntu
  • บ่นเรื่อยเปื่อย
  • เที่ยวไปทั่ว
    • ไทย
    • เอเชีย
    • ยุโรป
ข่าวเขาฝากมา
  • realme จัดแคมเปญ ‘Empower The Next Gen’ เสริมพลังขับเคลื่อนคนรุ่นใหม่ เปิดพื้นที่โชว์ 4 ศักยภาพอย่างไร้ขีดจำกัด
  • ชี้เป้าสมาร์ทโฟน 5G สุดคุ้ม “Galaxy A42 5G” จากซัมซุง เร็วแรงพร้อมลุยทุกการใช้งาน ในราคาหมื่นต้น!
  • ดีแทคจับมือยารา เปิดตัว Kaset Go เครือข่ายดิจิทัลชุมชนเพื่อเกษตรกรแห่งแรกในประเทศไทย
  • อาร์ทีบีฯ ส่งแพ็กคอนเทนต์ครีเอเตอร์!!! ชุดหูฟัง ATH-M40x พร้อมไมโครโฟน ATR2500X-USB ของ Audio-Technica ราคาสุดคุ้มเอาใจผู้ผลิตคอนเทนต์
  • เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัว WD_BLACK SN850 NVMe SSD มอบอีกขั้นของความเร็วแรงบนเทคโนโลยี PCIe® GEN4 รุ่นใหม่
  • MY PASSPORT SSD แบรนด์ WD ดีไซน์ใหม่ถอดด้าม พกความเร็วมาเต็มพิกัดพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
Home>>บ่นเรื่อยเปื่อย>>iPhone 11 … เมื่อถึงยุคที่ Apple ไม่ใช้ผู้กำหนดเทรนด์
ภาพบรรยากาศตอนเปิดตัว iPhone 11 Pro
บ่นเรื่อยเปื่อย

iPhone 11 … เมื่อถึงยุคที่ Apple ไม่ใช้ผู้กำหนดเทรนด์

นายกาฝาก
กันยายน 12, 2019 798 Views0

เป็นที่รู้กันว่าสินค้าของ Apple ส่วนใหญ่ ไม่ใช่ระดับ Mass เพราะความที่อะไรๆ ก็ถูกตีกรอบเอาไว้ เช่น ระบบปฏิบัติการ macOS ก็ต้องใช้กับเครื่อง Mac หรือ ระบบปฏิบัติการ iOS ก็ต้องใช้กับ iPhone/iPad เป็นต้น ส่งผลให้คู่แข่งอย่าง Microsoft หรือ Google ส่งระบบปฏิบัติการของตนเอง ทั้ง Windows และ Android มาตีตลาดผู้ใช้งานทั่วโลกส่วนใหญ่ไปได้สบายๆ แต่ Apple ก็ โนสนโนแคร์ เพราะในยุคของสตีฟ จ็อบส์ นั้น ออกทิศทางมาชัดเจนว่า ชั้นไม่ใช่บริษัทผลิตซอฟต์แวร์เหมือนกับ Microsoft ซะหน่อย ชั้นมันบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์ ที่แถมซอฟต์แวร์ให้ไปใช้ด้วย เพราะซอฟต์แวร์ของชั้นถึงจะดึงขีดความสามารถของฮาร์ดแวร์มาได้ดีที่สุด … ในยุคนั้นสินค้าของ Apple แม้จะไม่ใช่สำหรับ Mass แต่กลับสามารถกำหนดเทรนด์บางอย่างได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเลิกใช้แผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ 3.5″ หรือที่ชาวบ้านเรียกไดร์ฟ A แล้วหันไปใช้ USB แทน การปฏิวัติสิ่งที่เรียกว่าสมาร์ทโฟน การออกเทคโนโลยีหน้าจอ Retina display ฯลฯ แต่คุณจะว่าผมเวอร์ไปไหน ถ้าผมจะบอกว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ที่ Apple เขาเปิดตัว iPhone 11 นี่ ผมลืมไปเลยว่ามันเปิดตัว และบอกตรงๆ ผมกลับไม่รู้สึกว่ามัน “ว้าว” อะไรเลย

แต่ก่อนอื่น ผมต้องขอบอกก่อนว่า ปัจจุบัน พวกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้ผมรู้สึก “ว้าว” ซักเท่าไหร่แล้วนะครับ คือ ไม่ใช่มันไม่ดี แต่มันขาดสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกอยากจะได้มันมาเป็นเจ้าของ ความรู้สึกที่อยากจะอัพเกรด เปลี่ยนสมาร์ทโฟนปีละเครื่องเนี่ย มันหมดไปแล้ว เพราะปัจจุบัน แม้สมาร์ทโฟนมันจะทำอะไรได้มากขึ้น สเปกดีขึ้น ถ่ายรูปออกมาสวยขึ้น แต่เมื่อเทียบกับของที่อยู่ในมือเราตอนนี้ ผมกลับรู้สึกว่า ไอ้ที่อยู่ในมือตอนนี้มันก็ตอบโจทย์อยู่แล้วนี่หว่า แล้วจะต้องควักกระเป๋าจ่ายสองสามหมื่นบาททำไมอีก

ผมลองย้อนกลับไปดูตอนที่ สตีฟ จ็อบส์ เปิดตัว iPhone ในปี พ.ศ. 2550 ซึ่งบอกตรงๆ ว่าดูกี่ทีๆ นี่ขนลุกครับ ลีลาการนำเสนอ การนำเรื่องเข้าสู่ตัวผลิตภัณฑ์ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ตัวผลิตภัณฑ์นี่แหละ ที่มันโดดเด่นและกำหนดเทรนด์ของตลาดได้เลย ตอนเปิดตัว iPhone รุ่นแรกนี่ สตีฟ จ็อบส์ บอกเลยว่า Apple reinvents mobile phone กันเลยทีเดียว ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่างที่เขาว่า และหลังจากนั้น Apple ก็ยังมีปล่อยความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีออกมาเรื่อยๆ ครับ เช่น เปิดตัว Retina display ใน iPhone 4 ตอนนั้นนี่แบบว่า แม้ Apple จะออก iPhone มาแค่ปีละครึ่งรุ่น (คือ มันมี Major change ทุกสองปี) แต่เมื่อมันออกมาแล้ว จะต้องมีอะไรซักอย่างที่ถูกนำมาใช้เป็นตัวกำหนดเทรนด์ให้กับสมาร์ทโฟนคู่แข่งเลยแหละ (ตอนที่ออก Retina display มานี่ คู่แข่งเลยต้องพยายามทำจอความละเอียดสูงตามด้วย) ในยุคนั้น แม้ท้ายที่สุดแล้วผลิตภัณฑ์ของ Apple จะไม่ใช่สเปกดีที่สุด แต่ก็จะเป็นเหมือน Benchmark ที่คู่แข่งจะต้องทำให้ดีกว่าให้ได้ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ประสบการณ์ในการใช้งาน Apple ก็ยังกินขาดอยู่

แต่ไม่กี่ปีให้หลังมานี่มันไม่ใช่แบบนั้นแล้วอ่ะ เราจะเริ่มเห็นว่า Apple เปลี่ยนสถานะจากผู้กำหนดเทรนด์กลายมาเป็นผู้ทำตามเทรนด์แทนไปซะแล้ว เราได้เห็น Apple ผละจากหน้าจอแสดงผลแบบ 4:3 ที่เคยทำมาตลอด มากลายเป็น 16:9 แทน เราได้เห็น Apple เริ่มทำให้ iPad Pro สามารถแสดงผลสองแอปพร้อมๆ กันได้ ในแบบเดียวกับที่ Microsoft ได้ลองทำกับ Surface RT ซึ่งผมก็ต้องบอกก่อนเลยว่า แม้จะตามเทรนด์ชาวบ้านเขา แต่ Apple ก็ไม่ได้แค่สักแต่ว่าทำนะ เขานำไปปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร่องที่เจอ แล้วทำออกมาให้มีประสบการณ์ใช้งานที่ดีได้จริงๆ … แต่ผมก็ยังหวังที่จะได้เห็น Apple ในยุครุ่งเรืองของความเป็นผู้นำเทรนด์อีกครั้งอ่ะ วันที่ ทิม คุก หรือใครก็ตามแต่ จะออกมากล่าว Keynote แล้วพูดถึง Pain point ของผู้ใช้งาน แล้วบอกว่า Apple ได้ทำการศึกษา วิจัยและพัฒนา เพื่อแก้ Pain point ของผู้ใช้งานนี้ ในแบบเดียวกับที่ สตีฟ จ็อบส์ เลยออกมานำเสนอ ตอนเปิดตัว iPhone

เพราะตอนนี้ แม้แต่การเป็นผู้นำด้านการเซ็ตราคาค่าตัวสมาร์ทโฟนแพงๆ ของ Apple ก็ดูเหมือนจะหดหายไปแล้ว ดูได้จากการที่ iPhone 11 ออกมา ราคาต้องปรับลดลงไปเยอะ เพื่อให้ไปแข่งกับเรือธงคู่แข่งได้นี่แหละ

แชร์โลด:

  • Tweet
  • Print

โพสต์อื่นๆ ที่อาจสนใจ

Related tags : AppleiPhone
Share:

Previous Post

YubiKey Universal 2nd Factor เวิร์กไหมสำหรับใช้ทำ 2-Factor Authentication

ภาพของ YubiKey NEO พร้อมซองใส่

Next Post

รีวิว QNAP HS-453DX Silent NAS 10GbE สำหรับบ้านของคอมัลติมีเดีย

ภาพกราฟิกโปรโมท QNAP NAS HS-453DX

Related Articles

ภาพปกคอมพิวเตอร์ เป็นรูปตัวแพคแมน กำลังกินแรมอยู่ มีข้อความเขียนว่า ทำไมเบราวเซอร์ถึงกินแรมเยอะจัง (วะ)? บ่นเรื่อยเปื่อยซอฟต์แวร์แบ่งปันความรู้

ทำไมเบราวเซอร์ถึงได้กินแรมเยอะจัง (วะ)?

บ่นเรื่อยเปื่อย

ฝุ่น PM2.5 … ให้ป้องกัน ไม่ใช่ให้กลัวกันจนนอยด์

COWAROBOT R1 at Hong Kong International Airport Terminal 1 บ่นเรื่อยเปื่อย

Smart luggage กระเป๋าเดินทางอัจฉริยะ รุ่งหรือร่วง?

ภาพโคลสอัพของหน้าจอคอมพิวเตอร์ เคอร์เซอร์เมาส์รูปมือ กำลังจะคลิกคำว่า Security บ่นเรื่อยเปื่อย

ความสำคัญของการอัพเดตซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ – กรณีศึกษาช่องโหว่ของ Themegrill Demo Importer บนเว็บที่ใช้ WordPress

บ่นเรื่อยเปื่อย

ลองของ TMRW by UOB – แนวคิดดี แต่ยังไม่สมบูรณ์

Leave a Reply Cancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Translate this blog

อย่าลืมกดไลค์

อย่าลืมกดไลค์

ล่าสุดบ่นอะไรไป?

My Tweets

สับตะไคร้ติดตามบล็อกของผม

ใส่อีเมลของคุณที่เพื่อสมัครเป็นสมาชิกของบล็อกนี้ และรับการแจ้งโพสใหม่ผ่านทางอีเมล

© 2001-2020 kafaak.blog | Theme By WPOperation
ประกาศเรื่องการใช้คุกกี้ในเว็บไซต์นี้
เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บข้อมูลการเยี่ยมชม หากยอมรับกรุณาคลิกปุ่มยอมรับด้านล่าง เพื่อยืนยันการเยี่ยมชมต่อ หากคุณไม่ยอมรับคุกกี้ ให้คลิกปุ่มปฏิเสธ แล้วเราจะนำคุณไปที่ Google.com แทน หากสงสัยว่าเราใช้คุกกี้ทำอะไร อ่าน นโยบายคุกกี้ เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม

ยอมรับ ปฏิเสธ
คำประกาศการใช้คุกกี้

Privacy Overview

This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these cookies, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may have an effect on your browsing experience.
Necessary
Always Enabled

Necessary cookies are absolutely essential for the website to function properly. This category only includes cookies that ensures basic functionalities and security features of the website. These cookies do not store any personal information.

Non-necessary

Any cookies that may not be particularly necessary for the website to function and is used specifically to collect user personal data via analytics, ads, other embedded contents are termed as non-necessary cookies. It is mandatory to procure user consent prior to running these cookies on your website.