วันก่อนเขียนถึงการเที่ยวอุทยานแห่งชาติคลองลานและน้ำตกคลองลานไปแล้ว วันนี้ก็ยังคงอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชรครับ แต่ว่าเป็นที่อุทยานประวัติศาสตร์จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งหลายๆ ท่านอาจจะไม่คุ้น เพราะส่วนใหญ่จะไปเที่ยวกันที่อยุธยา หรือไม่ก็ข้ามไปสุโขทัยเลย แต่จริงๆ แล้ว ที่จังหวัดนี้ก็มีอุทยานประวัติศาสตร์ที่มีศิลปะแบบเดียวกับที่สุโขทัยเลย เพราะอดีตเคยเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของอาณาจักรสุโขทัยครับ เลยแอบเก็บภาพมาฝากนิดๆ หน่อยๆ เป็นการเล่าประสบการณ์
สำหรับการเดินทางมาที่อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรนั้นก็ไม่ยากครับ สถานที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมาก ขับรถยนต์ไปชิลๆ เลยครับ แต่จะมีค่าเข้าอยู่ที่คนละ 20 บาท แล้วก็ถ้านำรถยนต์เข้าไปด้วย ก็บวกไปอีกคันละ 30 บาท ผมไปสองคนรถยนต์ 1 คัน ก็ 70 บาทครับ แต่นั่นคือในกรณีที่ไปอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรที่เดียว แต่ถ้าเราอยากจะไปตรงส่วนที่เป็นวัดพระแก้วด้วย ให้บอกเจ้าหน้าที่นะครับ มันจะมีบัตรเข้าชมอีกแบบ ที่เป็นแบบคนละ 30 บาท ครับ แต่ถ้าเผลอจ่ายแค่ 20 บาทไปแล้ว ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ เดี๋ยวเขามีวิธีจัดการให้ เจ้าหน้าที่เขานิสัยดี อัธยาศัยดีจริงๆ
อุทยานแห่งชาติกำแพงเพชร ได้รับการจัดให้เป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2534 ครับ โดยได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกพร้อมๆ กับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและศรีสัชนาลัย ภายใต้ชื่อรวมๆ ว่า เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร (Historic Town of Sukhothai and Associated Historic Towns) ครับ


บรรยากาศภายในของอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรนี่จะดูร่มรื่นกว่าของที่สุโขทัยหรืออยุธยาครับ เพราะต้นไม้เยอะมาก ต้นใหญ่ๆ ก็มีด้วย แต่วันที่ผมไปเนี่ยคือฝนทำท่าจะตก แม้ว่าเมฆจะเยอะ (ซึ่งทำให้ถ่ายรูปด้วย GoPro Hero 7 Black ออกมาไม่สวย) แต่อากาศมันอบอ้าวมากมายเลยครับ ร้อน (ฮา) แต่ขนาดของอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรนี่ แม้จะใหญ่ขนาดที่มีคนมาวิ่งออกกำลังกาย มีคนมาขี่จักรยาน และเวลาจะชมก็ต้องขับรถชมเนี่ย ก็ยังถือว่าเล็กกว่าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยนะครับ

ภายในอุทยานเนี่ย ถ้ามีไกด์ช่วยนำทางและแนะนำสถานที่ก็จะดีครับ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ตามจุดต่างๆ เขาจะมี QR code ให้สแกนครับ สแกนแล้วมันจะไปเปิด YouTube ที่อ่านคำอธิบายเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ให้ทราบ … เป็นการใช้เทคโนโลยีแบบง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย และเหมือนจะทำกันเองด้วยนะนั่น (พิจารณาจากชื่อ YouTube Channel) ซึ่งผมอยากให้ผู้บริหารระดับสูงที่ทำหน้าที่กำกับดูแลเรื่องโบราณสถานและอุทยานประวัติศาสตร์ต่างๆ นี่ หันมาใส่ใจ และทำให้เป็นระบบมาตรฐานมากกว่านี้จริงๆ

ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ก็จะมีซากโบราณสถานเยอะแยะครับ แต่จุดแวะหลักๆ จะเป็น 4 วัด คือ วัดอาวาสใหญ่ วัดช้างรอบ วัดพระนอน และ วัดพระสี่อริยาบถ สี่จุดนี้คือยังเหลือซากโบราณสถานให้เห็นอยู่ค่อนข้างเยอะ เช่น วัดช้างรอบนี่ยังเห็นฐานเจดีย์แบบเต็มๆ วัดพระสี่อริยาบถนี่ก็คือยังเห็นพระพุทธรูปอยู่เต็มองค์ อะไรแบบนี้เป็นต้น

แต่ถ้าใครอยากจะถ่ายภาพพระพุทธรูปปางไสยาสน์หรือพระนอนละก็ โบราณสถานวัดพระนอน ไม่ใช่จุดหมายปลายทางนะครับ (แม้ว่ามันคือ 1 ใน 4 แห่งสำคัญของอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร) แต่ที่ควรจะไปก็คือ โบราณสถานวัดพระแก้ว ครับ การเดินทางก็คือขับรถเลยต่อไปอีกนิดเดียวครับ จะมาถึงศาลหลักเมืองก่อน จอดรถตรงนั้นแหละ แล้วจะมีทางเข้าไปที่โบราณสถานวัดพระแก้ว … ถือโอกาสไหว้ศาลหลักเมืองกำแพงเพชรก่อนได้เลย
ภายในโบราณสถานวัดพระแก้ว มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็เดินกันพอประมาณแหละครับ ไฮไลท์ก็น่าจะเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์และปางขัดสมาธิที่สภาพยังถือว่าค่อนข้างจะสมบูรณ์สององค์นี้แหละครับ

ที่ผมเขียนถึงไปนั่น คือที่หลักๆ นะครับ แต่จริงๆ แล้วถ้าอยากจะเดินให้ทั่วๆ จริงๆ ยังมีอีกหลายโบราณสถานที่ให้แวะไปชมได้ ใครที่อยากศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์ และศิลปะสมัยก่อน จะได้ประโยชน์จากการมาที่นี่มากเลย แต่สำหรับคนที่ไม่สนใจประวัติศาสตร์เท่าไหร่ ก็อาจจะเห็นเป็นแค่เสาหินหรือกองหินใหญ่ๆ เท่านั้นแหละ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายภาพทริปนี้
ทริปนี้ลองใช้ GoPro Hero 7 Black (Limited Edtion Dusk White) ในการถ่ายภาพทุกรูปที่ใช้ในบล็อกนี้ครับ ได้เห็นถึงข้อจำกัดของการใช้กล้อง GoPro เลยแหละ คือ ยังถ่ายภาพแบบออโต้ได้ไม่ดี ถ้าเกิดภาพมี Dynamic range สูงๆ และท้องฟ้าครึ้มๆ เพราะปรับแสงได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ลองเทียบกับภาพที่ถ่ายตอนฟ้าใสๆ แล้ว ต่างกันเยอะมาก