จริงๆ ผมก็อาศัยอยู่ละแวกนี้มาสิบกว่าปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยเข้ามาลึกถึงบางขุนเทียนชายทะเลแท้ๆ เลย เชื่อปะ (ฮา) ตรงนี้เป็นจุดที่คนที่นิยมการปั่นจักรยานเขาชอบมากัน และในฐานะที่ผมก็มีสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ขี่ได้ยาวๆ 20-30 กิโลเมตร ชิลๆ แล้ว ก็ควรจะหาโอกาสมาขี่สกู๊ตเตอร์กินลมชมวิวบ้างจริงๆ ใช่ไหมล่ะ ไหนๆ ก็มาสำรวจสถานที่แล้ว ก็เลยขอเขียนมาเป็นบล็อกซักตอน เผื่อใครที่เป็นผู้นิยมขี่สกู๊ตเตอร์ จะได้เอาไว้ใช้ตัดสินใจว่าจะมาดีหรือไม่
เส้นทางการเดินทางมาบางขุนเทียนชายทะเล
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าปัจจุบัน ระยะทางที่วิ่งได้จะอยู่แถวๆ 20-60 กิโลเมตร อยู่ที่ว่าจะใช้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนล่ะนะ สำหรับผม ผมใช้ Ninebot Kickscooter ES2 ที่ใส่แบตเตอรี่เสริมเข้าไป ก็วิ่งที่ความเร็ว 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ที่ระยะแถวๆ 25-30 กิโลเมตร แต่ไม่ว่าจะยังไง ก็คิดว่าคงต้องเริ่มจากการเดินทางมาด้วยรถยนต์ก่อนละนะครับ เว้นซะแต่ว่าบ้านจะอยู่แถวๆ นั้นอะนะ

เริ่มต้นจากตรง Home Pro พระราม 2 แล้วกันครับ จากนั้นก็ขับตรงต่อไปบนถนนพระราม 2 อีกราวๆ 1.5 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวเข้ามาที่ถนนบางขุนเทียนชายทะเล ขับตรงมายาวๆ 15 กิโลเมตร มันจะมาถึงจุดสิ้นสุดของถนน ที่จะแยกเป็นเลี้ยวซ้ายกะเลี้ยวขวา ก็ให้เลี้ยวขวา แล้วตรงมาแป๊บเดียว มองทางขวามือ เราก็จะเห็นลานโล่งๆ ที่เป็นที่จอดรถซึ่งจัดเตรียมมาให้โดยสำนักงานเขตบางขุนเทียนครับ จอดฟรี และที่จอดเยอะอยู่พอสมควร ส่วนใครที่มี Google Maps ให้ตั้งพิกัดมาที่โรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ครับ ที่จอดรถมันอยู่ก่อนถึงโรงเรียนนิดเดียว

แต่บอกไว้นิดนึงก่อนว่า ที่จอดรถมันเป็นลานดินนะครับ ถ้าเกิดมีฝนตก หรือก่อนหน้านี้มีฝนตก ก็จะเฉอะแฉะแล้วก็อาจจะเลอะเทอะได้นะครับ ระวังเอาไว้หน่อยก็ได้ จอดรถเสร็จแล้ว ก็เอาสกู๊ตเตอร์ออกมาเตรียมขี่ได้ครับ ออกจากลานจอดรถ แล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ขี่ไปทางโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ มันจะมีตรอกเล็กๆ อยู่ตรงข้ามโรงเรียน แต่เลยโรงเรียนไปอีกหน่อย (แบบในรูปด้านล่าง) มองเข้าไปในตรอก เราจะเห็นสะพานสูงๆ ครับ ให้เข้าไปในตรอกนี้เลย

การจะเข้าไปสู่จุดเริ่มของเส้นทางการขี่สกู๊ตเตอร์ จะต้องข้ามสะพาน 2 จุด (และระหว่างทางก็จะมีสะพานประปราย) แต่จุดแรกสุดเนี่ย จะเป็นสะพานที่สูงมาก มากจนแบบว่าสกู๊ตเตอร์ขี่ขึ้นไม่ไหวนะครับ แนะนำให้เข็นขึ้นจะดีที่สุด และตอนลงก็ควรจะค่อยๆ เข็นลงด้วยเช่นกัน เพราะสะพานมันชันมาก ถ้าปล่อยให้ไหลลงเองก็อันตรายอยู่ดีครับ

พอข้ามสะพานสูงมาแล้ว จะมีสะพานเตี้ยๆ อีกสะพานนึง ข้ามจากตรงนั้นมาได้แล้ว ก็ได้เวลาเริ่มขี่สกู๊ตเตอร์เที่ยวซะที ผมแนะนำว่าให้ขี่ที่ความเร็ว 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่เกินนั้น จะชิลมากที่สุด โดยเฉพาะ หากมาช่วงเช้าเขาว่าจะมีคนมาขี่จักรยานเยอะ ถ้าขี่เร็วๆ อาจจะอันตรายได้ (ตอนที่ผมมามันราวๆ 08:00 น. คนขี่จักรยานเขาไปกันหมดแล้ว ผมเลยขี่ได้ชิลๆ เหมือนเป็นเจ้าของถนน … ฮา) ระหว่างทางจะมีอะไรบ้าง ดูได้จากวิดีโอด้านล่างนี่ครับ
ถ้าใครขี่จักรยานมาละก็ ไม่ต้องห่วง ตลอดสองข้างทางจะมีจุดให้แวะพักเป็นระยะๆ บางที่นี่มีเก้าอี้ไม้ไผ่ให้นั่งด้วย สองข้างทางส่วนใหญ่ก็เต็มไปด้วยต้นไม้ ถือว่าบรรยากาศดีทีเดียว ผมไปขี่สกู๊ตเตอร์ตอนสายๆ นี่ยังรู้สึกได้ถึงลมเย็นๆ ครับ ตรงจุดที่เป็น 3 กิโลเมตร และ 4 กิโลเมตร มีซุ้มบอกระยะทางเอาไว้ด้วยครับ และถ้าใครสังเกตดีๆ ต้นไม้บางต้น มีการติดป้าย พร้อม QR code เพื่อบอกว่าเป็นต้นไม้พันธุ์อะไร ให้ข้อมูลสำหรับคนที่มาศึกษาธรรมชาติด้วย


ในระหว่างเส้นทาง นอกเหนือจากจุดแวะพักเหนื่อยและชมวิว อย่างอื่นที่น่าสนใจก็มี ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนบางขุนเทียน ที่เราสามารถจะแวะไปเพื่อไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องป่าชายเลนได้

แถวๆ จุดที่ 2 กิโลเมตรนิดๆ มันจะมีจุดที่เขาทำเป็นอุโมงค์ต้นไม้ ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ป่าชายเลน เป็นจุดที่บรรยากาศชิลที่สุดแล้ว ขี่เพลินมาก


ตรงปลายทางจะเป็นจุดชมวิวชายทะเลครับ แต่ก่อนที่จะถึงนิดหน่อย มันจะมีทางแยก และมีที่สำหรับจอดจักรยาน ตรงนี้สำหรับผู้ที่มาเที่ยว แล้วอยากจะปลูกป่าชายเลนครับ

มาถึงจุดที่เป็นปลายทางจริงๆ ก็คือตรงนี้ครับ เขาทำเป็นเต๊นท์ชั่วคราวให้คนที่ขี่จักรยานแวะพักเหนื่อย ได้พูดคุยกัน ได้กินลมชมวิวกันเพลินๆ ได้ครับ


ระยะเวลาทั้งหมดในการขี่จากตรงสะพานสูงมาถึงปลายทาง ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาราวๆ 15 นาทีครับ ตอนขากลับ เราสามารถแวะตามร้านอาหาร หรือร้านกาแฟที่อยู่ระหว่างทางได้ด้วยนะ มีเยอะแยะเลย เลือกกันตามสบายครับ ขากลับ ถ้าคนน้อย แล้วไม่อยากขี่ชิลๆ มาก ก็อาจจะลองขี่เร็วๆ หน่อยก็ได้ อย่างผม ผมลอง 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็ลมเย็นจริงจังดีอยู่ครับ ตอนแถวๆ 8 โมงกว่าๆ แล้ว มันไม่ได้คนเยอะแล้ว ขี่เร็วนิดหน่อย ไม่เป็นไร อิอิ