เมื่อเร็วๆ นี้ ทางทรูเขาเปิดตัว TrueID TV Box รุ่น 2 ออกมาหมาดๆ ว่ากันว่ามีการปรับปรุงจากเวอร์ชันก่อนพอสมควรด้วย (แต่เวอร์ชันก่อนผมไม่ทันได้รีวิวหรอกนะ) โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยเชื่อใจเรื่องกล่อง Android TV เท่าไหร่ เพราะชอบออกแบบมาให้ใช้งานเหมือนกำลังใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ผ่านจอทีวีซะมากกว่า เลยอยากรู้ว่ารอบนี้ TrueID TV Box มันจะใช้แล้วเวิร์กไหม ยังไง … ทางทรูเขาท้าพิสูจน์ ก็ส่งกล่องมาให้ผมลองเลยครับ
ออกตัวล้อฟรีก่อน…
บล็อกตอนนี้ได้รับการเอื้อเฟื้อ TrueID TV Box จากทรูมาให้ผมลองใช้จริง และผมก็ได้ใช้เป็นระยะเวลากว่า 3 สัปดาห์ เพื่อลองดูว่ามันเวิร์กไม่เวิร์กยังไง แต่ความเห็นทุกอย่างที่ปรากฏในบล็อกตอนนี้คือความเห็นส่วนตัวของผมล้วนๆ ทางทรูไม่ได้เข้ามากำหนดเนื้อหาให้แต่อย่างใดครับ
แกะกล่อง TrueID TV Box สิ่งที่มีมาให้ก็ตามรูปด้านล่างครับ คือมีตัวกล่อง TrueID TV Box มาให้ มีรีโมทด้วยอีกตัวนึง มีถ่านมาให้เรียบร้อย แล้วก็มี Wall charger กับสาย HDMI และสาย LAN ครับ เรียกว่าไม่ต้องเตรียมหาอะไรมาเพิ่มเลย อะไรที่จำเป็นต้องใช้ มีมาให้หมดเรียบร้อยครับ

ตัว TrueID TV Box นี่มีขนาดกะทัดรัดมาก หาที่วางติดตั้งง่ายเลยครับ ด้านหน้ามีไฟ LED แสดงสถานะการทำงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับเครือข่าย และไฟ Power ซึ่งจริงๆ จะเรียกว่าเป็น Power ไม่ได้หรอกนะครับ เพราะมันแค่แสดงว่าเจ้านี่ เปิดหรือปิดจออยู่ คือ อารมณ์เหมือนการใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ที่เวลาเรากดปุ่ม Power แล้วมันจะปิดจออะ ถ้าอยากปิดเครื่องจริงๆ ต้องกดปุ่ม Power ค้างไว้ แล้วเลือกว่าจะชัตดาวน์ครับ

ส่วนด้านข้างของตัวกล่องนั้น ด้านขวาเป็นสล็อตสำหรับใส่ MicroSD card ที่ให้เราสามารถเอาพวกไฟล์วิดีโอหรือเพลงมาใส่ เพื่อเอามาเล่นบน TrueID TV Box และสามารถดาวน์โหลดไฟล์ APK มาติดตั้งแอปบางตัวที่ไม่มีบน Google Play Store เช่นพวก NetFlix อะไรแบบนี้ (บล็อกนี้ได้รับการสนับสนุนจากทรู ฉะนั้น จะไม่ขอเขียนแนะนำวิธีการนะฮะ ขออภัย) ด้านซ้ายเป็นพอ USB-A 2.0 เอาไว้เสียบอุปกรณ์เสริมได้ เช่นพวกคีย์บอร์ดหรือเมาส์ เป็นต้น แต่ช่องที่เหมือนจะเป็นพอร์ตอีกอันที่เห็นอยู่ข้างๆ พอร์ต USB นั่น ไม่มีอะไรนะครับ เข้าใจว่ากล่องนี่มันเป็น OEM ของโรงงานอะ พอไม่เอาพอร์ตนี้ มันก็เว้นเป็นช่องปิดเอาไว้ ไม่ใช้งาน


ด้านหลังของตัวเครื่อง ไล่จากซ้ายไปขวาก็มี พอร์ต USB-A 2.0, พอร์ต RJ-45 เอาไว้เสียบสาย LAN แล้วก็มีพอร์ต HDMI, ช่องเสียบสาย AV, ช่องเสียบ Wall charger และปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง

การติดตั้งไม่ยากนะครับ ไม่มีสาย LAN จริงๆ ก็ติดตั้งได้ เพราะเจ้านี่ก็รองรับ WiFi ด้วยครับ ฉะนั้นเลือกได้เลยว่าอยากได้แบบไหน เพียงแต่ในการทดสอบของผม ผมแค่อยากให้ชัวร์ๆ ว่าจะไม่มีอะไรไปรบกวนแบนด์วิธของมัน ผมก็เลยใช้สาย LAN นั่นแหละมาเสียบ แยกเครือข่ายออกจากอุปกรณ์อื่นๆ ไปเลยฮะ

ตอนติดตั้งตอนแรก จะเป็นการติดตั้งในส่วนของ Android TV นะครับ ซึ่งถ้าเราเลือกที่จะติดตั้งผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่เป็นระบบปฏิบัติการ Android ก็จะสามารถโยนพวกรายละเอียดต่างๆ ของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตนั้นๆ มาไว้ในตัว TrueID TV Box ได้เลย ค่อนข้างสะดวกครับ ผมลองติดตั้งดูสองรอบ รอบแรกใช้สมาร์ทโฟนช่วยในการติดตั้งดู ส่วนรอบหลังใช้รีโมทคอนโทรลในการติดตั้ง พบว่าไม่ว่าจะทางไหน ก็ไม่ได้ยุ่งยากลำบากมากเกินไป คีย์บอร์ดบนจอมันถูกออกแบบมาดีทีเดียว

ในระหว่างกระบวนการติดตั้งก็จะมีการสอนวิธีการใช้งานรีโมทคอนโทรลในการเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ ของตัว TrueID TV ครับ ซึ่งดูจากที่อธิบายแล้ว ก็ต้องบอกเลยว่า ไม่จำเป็นต้องควบคุมผ่านคีย์บอร์ดหรือเมาส์เลยนะครับ มีรีโมทที่แถมมาให้นี่แหละตัวเดียวเอาอยู่หมด

จากนั้นชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น TrueID TV Box ฉะนั้นหากจะใช้งาน ก็ต้องมีแอป TrueID ก่อน จะดาวน์โหลดเวอร์ชัน iOS หรือ Android ก็ได้ และสมัครสมาชิกเอาไว้ด้วยนะครับ สมัครไม่ยาก ฟรีอีกต่างหาก มีแค่เบอร์โทรศัพท์ จะค่ายไหนก็ได้ ก็สมัครได้แล้วครับ

ได้เวลาลองใช้งานดูครับ ตัวนี้มีสเปกคือใช้หน่วยประมวลผล Amlogic S905X ซึ่งเป็น 64-bit quad-core Cortex-A53 2.0GHz และใช้ GPU เป็น Mali-450 รองรับการส่งสัญญาณภาพและเสียงผ่าน HDMI2.0 ได้ความละเอียดสูงสุด 4K ด้วย และมีแรม 2GB กับความจุ 8GB สำหรับการติดตั้งแอปต่างๆ ใช้งานได้ประมาณนึง ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 และรองรับ Google Assistant มีไมค์ติดมาในตัว สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ และยังมี Chromecast มาให้อีก ถ้าเราอยากเปิดไฟล์มัลติมีเดียแบบเร็วๆ ก็สามารถใช้แอปบนสมาร์ทโฟน Android หรือ iPhone ที่รองรับ Chromecast ทำสตรีมมิ่งขึ้นไปได้เลย

ในการรับชมทีวี ไม่ยุ่งยากเลยครับ โดยค่าเริ่มต้นแล้ว เจ้านี่ถูกออกแบบมาให้เปิด Live TV เป็นหลักเลยครับ เราสามารถใช้รีโมทคอนโทรลเปลี่ยนช่องต่างๆ ได้ เหมือนรีโมททีวีปกติเลย และตัวเลขช่องก็เป็นเลขของช่อง Digital TV จริงๆ ด้วย ไม่ต้องไปเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเลย เรียกว่าเปิดมาก็พร้อมใช้ และใช้เป็นได้เลย แม้แต่ สว (สูงวัย) ทั้งหลาย ผมก็ว่าไม่น่าห่วงเลยครับ คุณภาพในการรับชมก็เรียกว่าดีทีเดียว ไม่เสียทีที่เจ้านี่รองรับการแสดงผลถึงระดับ 4K เลย

และก็เหมือนกับ Digital TV ทั่วไปที่เราสามารถดูรายละเอียดผังรายการช่องต่างๆ ได้ โดยส่วนของ User Interface นั้น มันสามารถเลือกได้กระทั่งประเภทของรายการ เพื่อให้แสดงเฉพาะช่องที่มีรายการประเภทที่เราสนใจ แล้วดูกันไปเลยว่ามีรายอะไรอยู่บ้างช่วงกี่โมง และเราก็สามารถคลิก OK บนรีโมทเพื่อเลือกเปิดช่องที่ต้องการได้เลย ไม่ต้องกดหมายเลข

ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือระบบ Movie on demand ที่มีหนังให้เลือกหลายเรื่อง ทั้งเก่าและใหม่ ซึ่งดูจากข่าวต่างๆ ที่มีการเผยแพร่แล้ว ทางทรูจะมีการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับเจ้าของลิขสิทธิ์คอนเท้นต์เพิ่มขึ้น เพื่อให้มีตัวเลือกสำหรับผู้ใช้บริการมากขึ้น และสำหรับลูกค้าทรูที่สะสมแต้ม TruePoints ก็จะสามารถเอาแต้มนี้มาแลกดูหนังได้ด้วยนะ หนังบางเรื่อง ผมลองโหลดมาเล่นดูตอนที่ยังไม่ได้กดรับสิทธิพิเศษ TrueID Ultimate ก็พบว่าดูได้นะ เออ ดี มีหนังฟรีให้ดูด้วย แต่สำหรับคนที่ซื้อกล่องมาอ่ะครับ มันจะมีแพ็กเกจ TrueID Ultimate ให้ดูฟรี 6 เดือน (มูลค่าเดือนละ 199 บาท) ถ้าเราไม่เสียตังค์ค่าแพ็กเกจ เราจะเป็นแพ็กเกจ TrueID Basic HD ครับ ได้ดูฟุตลอบไทยลีกเฉพาะบิ๊กแมตช์, ดูหนังดูซีรี่ส์ในส่วนฟรีโซนได้ แล้วก็ดูทีวีฟรีได้ 54 ช่องครับ … ความแตกต่างระหว่างแบบฟรีและแบบ Ultimate ดูจากรูปด้านล่าง (ข้อมูล ณ เวลาที่ผมเขียนบล็อกนี้)

ข้อสังเกตก็คือ มีช่องข่าวเพิ่ม ช่องกีฬาเพิ่ม และพวกช่องหนังและการ์ตูนที่เป็นลิขสิทธิ์ของทรูเพิ่มครับ แต่ถ้าสมัคร Truevisions เอาไว้อยู่ ก็ลองเอารหัสสมาชิกบน Smartcard มากรอง เพื่อ Link ตัว TrueID เข้ากับ Truevisions ได้นะครับ 1 TrueID ได้ 1 รหัส และรับชมได้ 1 เครื่อง เห็นเขาว่ามันจะทำให้เราดูช่องของทรู (ที่ไม่ใช่ลิขสิทธิ์ทรู) เพิ่มได้ตามแพ็กเกจ Truevisions นั้นๆ (ขออภัย ผมไม่ได้ลอง เพราะที่บ้านใช้แพ็กกระจอกสุด … ฮา)
อ้อ! แต่ถึงจะมี TrueID Unlimited HD หรือ TrueID Ultimate ก็ตาม แต่หนังเรื่องใดที่มันเขียนว่า พรีเมียม จั่วหัวไว้ ก็จะดูฟรีไม่ได้นะครับ ต้องเช่าเอา หรือไม่ก็เอา TruePoints แลกครับผม มากหรือน้อยก็อยู่ที่ว่าต้องเช่าด้วยเงินกี่บาท (ค่าเช่ามันไม่เท่ากัน)



และด้วยความที่เป็น Android TV ที่มีสเปกดีประมาณนึงเลย ก็ทำให้เจ้านี่ติดตั้งแอปเพิ่มเติมได้ครับ มี Google Play มาให้ด้วย จะโหลดพวกแอปเกี่ยวกับหนังมาเพิ่ม แอปข่าว หรือแม้แต่เกม ก็ดาวน์โหลดมาเล่นได้เช่นกัน ถ้าดาวน์โหลดเกมมาเล่น ก็มีทั้งแบบที่เล่นด้วยรีโมท หรือบางเกมเราก็เสียบคีย์บอร์ดกับเมาส์เล่นได้ครับ

พวกเกมที่มีให้ดาวน์โหลดบน Google Play Store เวอร์ชันสำหรับ Android TV แบบนี้ มันจะรองรับการเล่นเกมผ่านรีโมทอยู่แล้วครับ อย่างเช่นเกมขับรถแนว Mario Kart อันนี้ เล่นด้วยรีโมทคอนโทรลได้สบายๆ เลยครับ ขอบอก
บทสรุปการรีวิว TrueID TV Box
ราคาของกล่อง TrueID TV Box ถือว่าพอๆ กับพวกกล่อง Android TV ดีๆ ตัวนึง เผลอๆ แพงกว่านิดนึงด้วย ใครที่ชอบความเป็น Android TV แบบเพียวๆ เลย ทำอะไรทุกอย่างได้ตามใจมากกว่า เพราะอย่างกล่อง TrueID TV Box นี่ เขาไม่ให้ดาวน์โหลด Netflix มาใช้งานครับ แต่ถ้ามองในแง่ของคนที่อยากหา Android TV สัญชาติไทย ที่มีบริการหลังการขายจริงจัง อยากดูทีวีไทยด้วย (กล่อง Android TV ทั่วไปจะไม่มีการทำโหมดสำหรับดูทีวีไทยมาโดยเฉพาะ) และเผลอๆ เป็นคนที่เป็นสมาชิก Truevisions อยู่แล้ว เจ้าตัวนี้ถือว่าไม่เลวทีเดียวนะครับ ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านนี่ไม่ต้องหัดใช้งานอะไรมากเลยด้วยครับ กล่องนี้มันจะไปจบลงที่ห้องนอนของแม่แน่อน หลังรีวิวเสร็จ
ช่วงนี้ขายของให้ทรูเขาหน่อย
เวลาที่ผมบอกว่าของมันดี มันไม่ใช่เพราะเขาให้ผมมาใช้หรอกนะครับ การที่เขาให้มารีวิวแล้วมันเป็นกิเลสมากกว่า เพราะกล่อง TrueID TV Box นี่มันตอบโจทย์ผมมากทีเดียว เพราะผมมีทั้งใช้ Chromecast อยู่แล้ว และผมเองก็เปิดทีวีดูบ้างเหมือนกัน ซึ่งปกติผมก็ต้องเอาแอป TrueID มายิงผ่าน Chromecast ดู แต่พอมี TrueID TV Box นี่ มันต้องโจทย์ผมหมด ทั้งดูทีวีดิจิทัลปกติ ทั้งดู Plex (ที่ปกติผมต้องยิงผ่าน Chromecast แล้วมันควบคุมได้ไม่ค่อยสมบูรณ์แบบนัก) ฉะนั้น ผมจัดเลยครับ 1 กล่อง หลังรีวิวเสร็จ ใช้แต้มทรู 500 แต้ม แลกส่วนลดไป 500 บาทถ้วน แถมส่งฟรีอีก อันนี้ต้องซื้อผ่าน WeMall นะครับ (ลิงก์เดี๋ยวแปะให้ด้านล่าง) อย่าไปซื้อจากช่องทางอื่นล่ะ จะไม่ได้ส่วนลดนะฮะ

ส่วนช่องทางอื่นๆ ในการได้มาซึ่งกล่อง TrueID TV Box นี่นอกจากแลกแต้มแล้ว ก็มีสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ 899 บาท/เดือน ขึ้นไป ซึ่งจะได้ทั้ซิมทรูมูฟเอช และกล่องไปใช้ฟรีๆ เลย พร้อมแพ็กเกจ TrueID Ultimate อีก 12 เดือนฮะ หรือจะสมัครแค่เน็ตของทรูมูฟเอช แพ็กเกจ 4G+ Extra Fun Unlimited ก็จะได้ส่วนลดค่ากล่อง 50% เหลือ 1,245 บาท แล้วก็ได้ TrueID Ultimate ฟรีอีก 12 เดือน ด้วยครับ

ช่องที่ปิดไปน่าจะเป็นช่อง SPDIF หรือช่องเสียงแบบ Optical ที่ต่อลำโพงหรือ Soundbar ได้เลย น่าเสียดายจัง
ดูจากรูปร่างหน้าตาของช่อง น่าจะเป็น SPDIF
ไม่ทราบว่าได้ลอง chromecast built-in ที่มีอยู่ไหมครับ ใช้งานได้ไหม ครับ
ตัว TrueID TV Box ที่ผมซื้อมา ใช้งานไม่ได้ เลย แม้แต่ TrueID apps ครับ งง จริง ๆ
ลองครับ ใช้ได้อยู่ แต่บางทีก็หาเครื่องไม่เจอซะงั้น ผมพบว่าเป็นปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อกับ WiFi ซึ่งตัวกล่อง TrueID มีปัญหาต่อแล้วหลุดในบางครั้ง วิธีแก้คือต้องรีสตาร์ทกล่องก่อน
ผมใช้ได้ปกติ ไม่มีปัญหาครับ
ใช้ไม่ดีเลย มีปัญหาตลอด ติดต่อศูนย์บริการยากมากๆๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นของทรู ไม่น่าซื้อมาใช้