แม้ดูเหมือนว่าวิกฤตฝุ่น PM2.5 จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ถ้าประเมินจากสถานการณ์มลภาวะในกรุงเทพมหานคร (และอีกหลายๆ หัวเมืองใหญ่ตามจังหวัดต่างๆ) ร่วมกับสภาพอากาศในปัจจุบัน เชื่อว่าสิ้นปีนี้มันก็วนเวียนกลับมาใหม่แน่นอนครับ ไอ้ครั้นจะซื้อเครื่องฟอกอากาศมันก็แอบแพงซะเหลือเกิน แต่เห็นบนโลกโซเชียลเขาเอาวิธีทำเครื่องฟอกอากาศแบบง่ายๆ มาแชร์กัน ก็เลยอยากลองด้วยตัวเอง ว่ามันเวิร์กจริงไหม
หลักการของเครื่องฟอกอากาศ
เอาเข้าจริงๆ ก็อย่างที่หลายๆ คนบนโลกโซเชียลเขาว่ากันนั่นแหละ หลักการทำงานของเครื่องฟอกอากาศจริงๆ ก็คือ การใช้พัดลมดูดอากาศ ดูดอากาศภายนอกให้ผ่านตัวไส้กรองไป ไส้กรองก็จะทำหน้าที่ดักฝุ่น
แต่ความแตกต่างระหว่างเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่น มันก็อยู่ที่ตรงฟีเจอร์ต่างๆ นั่นแหละครับ บางยี่ห้อก็อาจจะมีไส้กรองหลายชั้น ชั้นแรกกรองหยาบ จากนั้นกรองละเอียด แล้วตามด้วยกรองคาร์บอนดับกลิ่น กรองสารเคมี และมีกรองฝุ่น PM2.5 ปิดท้าย ไรงี้ บางยี่ห้อก็อาจจะแบบสร้างอนุภาคไอออน มากำจัดเชื้อรา เชื้อไวรัส อะไรแบบเนี้ย บางยี่ห้อก็อาจจะเพิ่มการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย แล้วแต่จะใส่มา
โดยหลักการพื้นฐานสุดๆ ของเครื่องฟอกอากาศแล้ว ถ้าเราไม่ได้ต้องการฟีเจอร์อะไรมากมาย แค่ต้องการให้มันกรองฝุ่นได้ องค์ประกอบที่สำคัญก็มีแค่สองอย่างเอง ก็คือ พัดลมดูดอากาศ และ ไส้กรองอากาศครับ

ฉะนั้น สิ่งที่ผมใช้ก็คือ พัดลมดูดอากาศ เลือกยี่ห้อ Mira รุ่น M-66 ขนาด 6 นิ้วครับ สาเหตุเพราะว่าเจ้านี่เป็นแบบติดกระจก มีบานปิดแบบชัตเตอร์ เวลาเปิดใช้มันไม่เกะกะ ปริมาณลม 3.6 ลูกบาศก์เมตร/นาที ถือว่าพอไหวๆ

ส่วนที่เลือกขนาด 6 นิ้ว ก็เพราะว่ามันช่างเหมาะเจาะกับขนาดของไส้กรอง Xiaomi Air Purifier 2s ที่ผมเอามาใช้ทดลองนี่เลยน่ะสิครับ นั่นหมายความว่า ถ้าเลือกองค์ประกอบมาเหมาะสมแล้ว ก็แทบจะไม่ต้องดัดแปลงอะไรเพิ่มเติมมากมายเลย เอ้า! นี่พูดกันตรงๆ
วิธีการติดตั้ง อยากบอกว่า ง่ายกว่าที่คิดโคตรครับ ส่วนนึงคงเพราะว่าเจ้านี่ดีไซน์ออกมาพอดีอย่างไม่น่าเชื่อ เอาไปวางบนไส้กรอง Xiaomi Air Purifier 2s ได้แบบ เป๊ะมาก ถ้าอยากให้มั่นคงๆ หน่อยก็หาเทปกาวมาติด แต่จริงๆ ไม่จำเป็นเลย เพราะเท่าที่ผมดู มันสนิทแนบแน่นดี และด้านล่างของตัวไส้กรอง Xiaomi เองก็มีพลาสติกปิดอยู่แล้ว จากนั้นแค่เสียบปลั๊กก็พร้อมใช้งาน อยากจะเปิดใช้งาน ก็แค่ดึงสายให้ชัตเตอร์มันเปิด เดี๋ยวพัดลมมันทำงานเอง

ผมลองเอามาใช้งานดู เอาเจ้าเครื่องวัดมาวางไว้จ่อๆ กับทางออกของพัดลมระบายอากาศเลย จะเห็นได้ชัดว่าตัวเลขนี่ลดลงรวดเร็วมาก ส่วนนึงเพราะอากาศที่ออกมามันฝุ่นน้อยลง (ผลจากการกรอง) อีกส่วนเพราะลมมันพัดนั่นแหละ (ฮา) แต่ที่เอามาให้ดูแบบนี้ ก็เพื่อที่จะได้เห็นว่าตัวเลขมันลดลงนะ
แต่ในการทดสอบจริงๆ ผมเอาเจ้าเครื่องฟอกอากาศ DIY นี่ไปวางไว้อีกจุดนึง แล้วก็เอาตัววัด PM2.5 นี่ไว้อีกจุดนึงครับ ไม่ให้แรงลมมันไปส่งผลกระทบต่อกัน พบว่า ค่า PM2.5 มันลดลงมาจริงๆ ครับ แต่ถ้าเทียบกับ Xiaomi Air Purifier 2s แล้ว อาจจะไม่ได้รวดเร็วเท่า แต่ผ่านไปซัก 40-50 นาที ตัวเลขที่ตอนแรกอยู่แถวๆ 15-16 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ลดลงมาเหลือแถวๆ 9-10 ไมโครกรับ/ลูกบาศก์เมตรครับ
นี่คือไม่ได้ดัดแปลงอะไรเพิ่มเลยนะ แค่เอาพัดลมดูดอากาศ (590 บาท) มาวางบนไส้กรอง (ประมาณ 700-900 บาท) เท่านั้นเองครับ … ถ้าอยากได้เครื่องฟอกอากาศมาลดฝุ่น แค่นี้ผมว่าก็พอแล้วแหละ แต่ถ้าที่บ้านมีลูกเล็ก มีคนที่แพ้อากาศ หรือระบบทางเดินหายใจไม่แข็งแรงนัก ผมคิดว่า พิจารณาเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศดีๆ ไปเลยดีกว่า ช่วงนี้สถานการณ์น่าจะเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว ไปลองๆ ดูครับ เลือกยี่ห้อและรุ่นที่มีฟีเจอร์เหมาะสมกับเรา
แนะนำไส้กรองของแท้ วาร์ปค่ะ https://www.fujisiam888.com/product-page/filter-pm25