เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ใช้ลายนิ้วมือปลดล็อกกันแล้วเหอะ วันก่อนนู้นผมก็รีวิวแฟลชไดร์ฟที่ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือไปแล้ว วันนี้ผมขอพูดถึง กุญแจล็อก กันบ้างครับ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าบางทีเราล็อกกุญแจแล้ว ดันลืมรหัสผ่าน (สามตัวบ้าง สี่ตัวบ้าง) งวดนี้ล็อกมันด้วยลายนิ้วมือเลย มันจะลืมได้ยังไง จริงแมะ
ออกตัวล้อฟรี…
เจ้านี่ผมสอยมาจาก Lazada ด้วยความกระหายใคร่รู้ของผมเอง ไม่ได้มีใครเสี้ยมให้จัดมาเลย ซื้อมาด้วยเงินตัวเองล้วนๆ ไม่มีใครสปอนเซอร์ ความเห็นในนี้ทั้งหมด เป็นของผมแต่เพียงผู้เดียว

เริ่มต้นด้วยการแกะดูของที่อยู่ข้างในกล่องก่อนครับ มันก็มีตัวล็อกที่ทำมาจากอลูมิเนียม มีน้ำหนักประมาณนึงเลย ขนาดก็ประมาณนึงเช่นกันครับ ดูจากขนาดของที่ล็อกแล้ว สามารถเอามาล็อกกระเป๋าเป้ หรือ กระเป๋าเดินทางได้สบายๆ
นอกจากนี้ก็มีคู่มือการใช้งานเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน … โอเค อ่านเข้าใจไม่ยาก และมีสาย Micro USB 2.0 สำหรับเอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวกุญแจด้วย

ตัวกุญแจ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ก็หน้าตาเหมือนกุญแจล็อกทั่วไปนั่นแหละ สีดำ เรียบสวย มีไฟ LED เล็กๆ แสดงผลได้สามสี คือ เขียว น้ำเงิน และ แดง เอาไว้บอกสถานะต่างๆ (รายละเอียดอยู่ในคู่มือ) มีตัวอ่านลายนิ้วมือที่อ่านได้แบบ 360 องศาเลย แล้วด้านข้างก็มีรู Micro USB 2.0 เอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่

ในสเปกไม่ได้บอกว่าเจ้านี่กันน้ำกันฝุ่นยังไง แต่ด้วยความที่ผมซื้อมาห้าร้อยกว่าบาท ผมไม่อยากจะเอามันไปจุ่มน้ำเล่นเพื่อบทความในบล็อกที่ไม่ได้ตังค์อะไร (ฉะนั้นกรุณาเข้าใจหัวอกบล็อกเกอร์ต๊อกต๋อยแบบผมด้วย) ผมเลยขอพูดแบบกลางๆ หลังจากที่ได้หยิบๆ ลูบๆ คลำๆ มันดูนะครับ คือ มันน่าจะไม่มีปัญหาหากมีน้ำกระเด็นมาโดนบ้าง แต่อย่าทำตกน้ำเป็นดีที่สุด มีโอกาสเจ๊งแน่นอน

การเริ่มต้นใช้งาน ขั้นแรกก็คือเอานิ้วไปแตะบนที่สแกนลายนิ้วมือราวๆ 3 วิ แล้ว LED จะกระพริบเป็นสีน้ำเงิน ตอนนั้นเองให้เรายกนิ้วมือออกมา แล้วจากนั้นมันจะเริ่มกระพริบไฟเป็นสีเขียว เราก็แตะนิ้วลงไปครับ ราวๆ 10 หน แตะแบบคล้ายๆ กับตอนบันทึกลายนิ้วมือบนสมาร์ทโฟนนั่นแหละ แต่ว่าการแตะแต่ละที ก็ค่อยๆ ขยับนิ้วเคลื่อนไปทีละนิดละหน่อยพอ ถ้าแตะแล้วไม่โอเค มันจะเตือนเป็นสีแดงครับ ให้แตะใหม่ พอแตะครบ 10 ทีแล้ว ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย มันจะมีเสียงติ๊ดดังๆ ทีนึง กับไฟ LED ติดเป็นสีเขียว เป็นอันเรียบร้อย
เจ้านี่จดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 10 ลายนิ้วมือ จะบันทึกเพิ่ม ก็แตะค้างตรงที่สแกนลายนิ้วมือ นิ้วใหม่ค้างไว้ 3 วิ จนไฟ LED เป็นสีน้ำเงิน ก็แตะนิ้วที่บันทึกไว้ลงไปเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของ จากนั้นก็ปฏิบัติตามขั้นตอนในย่อหน้าก่อน คือ แตะนิ้วใหม่ไป 10 หนครับ
ไฟ LED สามสี จะแสดงสถานะต่างๆ กันออกไปดังนี้
ไฟ LED | ความหมาย |
สีแดงกระพริบ | แบตเตอรี่จะหมด หรือ บันทึกลายนิ้วมือไม่สำเร็จ |
สีแดงติดตลอดเวลา | ชาร์จแบตเตอรี่อยู่ หรือ อยู่ในโหมดลบลายนิ้วมือออก |
ไฟไม่ติด | แบตเตอรี่เต็มแล้ว |
สีเขียวกระพริบ | กำลังอยู่ในระหว่างการบันทึกลายนิ้วมือใหม่ |
สีเขียวติดตลอเวลา | บันทึกลายนิ้วมือเสร็จเรียบร้อย |
สีน้ำเงินติดตลอดเวลา | ให้แตะลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตน (ตอนจะเพิ่มลายนิ้วมือใหม่เข้าไป) |
สีเขียวกระพริบเร็วมากๆ | ปลดล็อกกุญแจเรียบร้อย |
ส่วนการลบลายนิ้วมือก็ไม่ยุ่งยาก แค่แตะนิ้วมือค้างบนตัวสแกน 6-10 วินาที รอจนมันมีเสียงติ๊ดแล้วไฟ LED สีแดงติดค้างไว้ จากนั้นก็เอาอีกนิ้วที่สามารถสแกนปลดล็อกได้ มาสแกนเพื่อยืนยันตัวตน แล้วมันจะส่งเสียงติ๊ดยาวๆ พร้อมไฟ LED ติดเป็นสีเขียว แค่นี้ก็ถือว่าเรียบร้อย แต่การลบแบบนี้ มันจะลบ “ทุกนิ้ว” เลยนะครับ ต้องไปเริ่มสแกนเก็บกันใหม่ และในระหว่างนี้ นิ้วไหนๆ ก็สามารถปลดล็อกเจ้านี่ได้เลย ตรงนี้เป็นอะไรที่ต้องระวังมากๆ

ลองเอามาใช้งานจริงดู ก็ตามรูปที่เห็นด้านบนครับ ล็อกเสร็จปุ๊บ จะมีไฟ LED ติดสีเขียวแว้บนึง สแกนปุ๊บ ปลดล็อกปั๊บ ไวโฮกๆ

แต่มันก็มีข้อจำกัดที่น่ารำคาญอยู่ นั่นก็คือ ตอนจะกดปิดล็อกเนี่ย บ่อยครั้งเลยที่มันกดไม่ติด ต้องอาศัยความพยายามในการกดๆๆๆ หน่อยครับ
บทสรุปการรีวิว กุญแจปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ
สแกนบันทึกลายนิ้วมือยากไปหน่อย ฟลุคๆ ก็ทีเดียวผ่าน แต่ส่วนใหญ่ที่ผมลอง ต้องทำซ้ำไปซ้ำมาซัก 2-3 รอบ กว่าจะสแกนลายนิ้วมือได้ทีนึง มันชอบไปตายตอนท้ายๆ ไฟแดงขึ้นดังติ๊ด หรือไม่ก็ไฟแดงขึ้นแล้วดับไปเลย ต้องเริ่มใหม่ แต่การปลดล็อกนี่ทำได้รวดเร็วดีมาก
ที่น่าเป็นห่วงก็คือ มันไม่มีตัวเลือกสำรองเลยนะครับ ถ้าเกิดว่าแบตเตอรี่หมด ผมก็ไม่แน่ใจว่าถ้าแบตหมดเกลี้ยงแล้วจะเป็นยังไง แต่ว่าในคู่มือมันเขียนว่า หากแรงดันในแบตเตอรี่มันเหลือน้อยกว่า 3.5 โวลต์แล้ว ไฟแดงจะกระพริบเร็วๆ 15 วินาที แต่หากไม่มีการชาร์จแบตเข้ามา มันก็จะมีการเตือน (ไม่รู้ว่าไฟแดงกระพริบ หรือมีเสียงดัง) ทุกๆ นาที ก็ไม่น่าห่วงเรื่องแบตหมดละมั้ง … ชาร์จแบตเตอรี่เต็มทีนึง แบตเตอรี่จะอยู่ได้นาน 6 เดือนโดยประมาณ ถ้าไม่มีการปลดล็อกเลย เขาว่างั้น แต่ถ้าปลดล็อกบ่อยๆ แบตก็จะหมดเร็วขึ้น
ว่าจะซื้อเหมือนกัน แต่กลัวถ้ามีใครหมั่นไส้ หรือขโมย เอาน้ำเท(เช่น ใน fitness) หรือใช้ในที่โดนฝน จะมีปัญหาไหม
และมีช่องเสียบ micro usb นี่.. จะถูก hack ไหมนะ 555
สรุปกังวลมากไป.. ซื้อแบบรหัสผ่าน 150บ. มาใช้แทนละ
แล้วถ้าผมรู้วิธีใช้ ผมก็สามารถไปเพิ่มลายนิ้วมือเข้าไปเองได้สิครับ -*-
มันต้องใช้ลายนิ้วมือแรกก่อนนะ