เมื่อไม่นานมานี้ เกิดเหตุการณ์โป๊ะแตกเกิดขึ้น เมื่อบัญชีทวิตเตอร์ @Huawei ทวีตข้อความปีใหม่ แต่ดันทวีตด้วย Twitter for iPhone ซะงั้น คนดูแลแบรนด์อาจไม่ทันได้สังเกต อาจจะเพราะว่าการอ่านทวีตบนเว็บหรือแม้แต่บน Timeline ในแอปเอง มันจะไม่เห็นข้อมูลส่วนนี้ มันต้องจิ้มไปอ่านข้อความนั้นโดยตรง มันถึงจะเห็นว่าแอป Twitter มันบอกครับ ว่าข้อความนี้ทวีตมาจากอะไร
เหตุการณ์นี้จบลงที่ Huawei ลบทวีตอันนั้นไป และมีคนโดนลงโทษไปหลายคนเลย อ้างอิงจาก Apple Insider ข่าวว่าเจ้าหน้าที่สองคนโดนลด 1 ขั้น และโดนหักเงินเดือนไป 5,000 หยวน (เขาอ้างอิงจาก Internal memo ที่สำนักข่าว Reuters ไปเห็นเข้า) และหนึ่งในนั้นที่เป็น Digital Marketing Director ก็จะโดนไม่ขึ้นเงินเดือนไปอีกปีนึง
หลายคนอาจคิดว่าเป็นการลงโทษที่รุนแรงมาก แต่ Huawei ก็ได้ให้เหตุผลคือ ความผิดพลาดดังกล่าว มันส่งผลกระทบต่อแบรนด์ ซึ่งผมก็มองว่ามันสมเหตุสมผลดีครับ เพราะแบรนด์ที่ทำ Android smartphone หลายรายทำการตลาดโดยเน้นเปรียบเทียบกับ iPhone และพยายามชูจุดขายว่าตัวเองเหนือกว่า iPhone แล้วถ้าเกิดว่าพนักงานดันไปใช้ iPhone ซะนี่ มันย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น (Trust) แน่นอน … ถ้าแบรนด์คุณเจ๋งจริง ทำไมพนักงานของคุณถึงไปใช้แบรนด์คู่แข่งล่ะ จริงไหม?

และเผื่อใครไม่ทันรู้ เหตุการณ์โป๊ะแตกของ Huawei ก็มีมาก่อนหน้านี้แล้วในเดือนเมษายน เพียงแต่ไม่ได้โป๊ะแตกมาจากตัว Huawei เอง แต่ดันเป็นเซเล็บที่ทวีตให้ (สังเกตได้ว่ามีแฮชแท็ก #AD ชัดเจนว่าจ้างมาโพสต์) ซึ่ง @GalGadot หรือนักแสดงที่เล่นบท Wonder Woman นั่นเอง นางทวีตว่า สวัสดีคู่ชีวิตคนใหม่ของฉันหน่อย! (เป็นการเล่นคำกับคำว่า Mate ที่แปลว่า เพื่อน หรือ คู่ชีวิต) แต่ Twitter ขึ้นหราเลยว่า via Twitter for iPhone จ้า … แต่อันนี้ยังแอบมีเหตุผลแก้ต่างได้ครับ ว่าเป็นทีมงานถ่ายรูปแล้วโพสต์ให้ เลยไม่ได้ใช้ Huawei Mate 10 Pro มาโพสต์ และนี่คือสิ่งที่ Gal Gadot ตอบนักข่าวเมื่อถูกถามครับ
“บางคนถามฉันเกี่ยวกับทวีตล่าสุดเรื่องสมาร์ทโฟน Huawei และคิดว่าฉันใช้ iPhone แต่นั่นไม่ใช่เลย ฉันรัก Huawei P20 และ Mate 10 Pro มันคือชีวิตของฉันเลย ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก… บางครั้งฉันให้ทีมช่วยโพสต์วิดีโอใหญ่ๆ และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในโพสต์นั้น”
Gal Gadot ให้สัมภาษณ์เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับกรณีโพสต์โป๊ะแตก
เหตุการณ์โป๊ะแตกไม่ใช่แค่มีแต่ Huawei ซะที่ไหนล่ะ เดือน พ.ย. 2018 (ปีที่แล้วนี่แหละ) Samsung ประเทศไนจีเรียโพสต์อวดโฉมจอ Super AMOLED Infinity Display ของ Galaxy Note 9 แต่ดันขึ้นว่า via Twitter for iPhone

และเหมือนทีเดียวจะยังไม่เข็ด เพราะมันคนละประเทศ Samsung อินเดีย ก็เลยโป๊ะแตกไปด้วย โดยโพสต์อวดคุณสมบัติกล้อง Ultrawide ของ Samsung Galaxy A9 แต่ก็ดันขึ้นว่า via Twitter for iPhone ซะงั้น

แล้วถ้าคิดว่ามีแค่สองแบรนด์นี้เท่านั้น คุณคิดผิดครับ Apple เองก็เคยโป๊ะแตกมาแล้ว แต่เป็นบัญชี Twitter ของ Apple Music ครับ ที่ทวีตโปรโมทเพลง แต่ดัน via Twitter for Android

อย่างไรก็ดี เคสนี้ก็ยังพอกล้อมแกล้มหาเหตุผลแก้ตัวไปได้ว่า Apple Music มันมีแอปบน Android ด้วย ฉะนั้น ก็ไม่ถือว่าโป๊ะแตกอะไรมากแต่อย่างใด (Apple ไม่ได้กล่าวไว้) … ก็ยังฟังขึ้นอยู่ แต่ก็ยังน่าอับอายอยู่ดี (มั้ง)
ประธานาธิบดี Donald Trump เอง ตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ก็ออกมาเรียกร้องให้มีการบอยคอต Apple ไม่ให้ใช้ iPhone จนกว่า Apple จะยอมให้ข้อมูลแก่ FBI ในคดีนึง แต่ตอนนั้น Trump เองก็ยังทวีตด้วย iPhone อยู่ และก็มีคนแซะ แต่เฮียแกก็สวนกลับมาตามนี้เลยครับ
แปลเป็นไทยคือ “ผมใช้ทั้ง iPhone และ Samsung ถ้า Apple ไม่ยอมให้ข้อมูลผู้ก่อการร้ายแก่เจ้าหน้าที่ ผมก็จะใช้แต่ Samsung จนกว่าเขาจะยอมให้ข้อมูล”

แต่ก็ตามประสานักการเมืองนะฮะ ปัจจุบัน Trump ก็ยังทวีตบน iPhone นะครับ หลักฐานคือ Screenshot ล่าสุด ข้อมูลจากวันที่ผมเขียนบล็อกตอนนี้อยู่ เมื่อประมาณเกือบๆ 1 ชั่วโมงที่แล้ว แต่ถ้าถามว่า คดี San Bernardino ที่เป็นเหตุที่ทำให้ Trump มาเรียกร้องให้บอยคอต Apple นั้น ได้ข้อมูลจาก Apple ไหม คำตอบคือไม่ แต่คดีมันจบลงได้ เพราะเจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของ iPhone ของผู้ต้องหาได้ โดยคาดว่าน่าจะใช้วิธีแฮกช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ iPhone นั่นแหละ
Apple ยังไม่ให้ข้อมูล แต่ Trump ก็ยังใช้ iPhone ต่อไป แบบนี้เรียกโป๊ะแตกได้ไหมอ่ะ?
ปิดท้ายนี้ จะเห็นได้ว่าจะทวีตด้วยอะไร มันก็จะมีคนเห็นจนได้นะครับ แล้ว Twitter มันก็ไม่ได้แสดงแค่ว่า Twitter for iPhone, Twitter for Android และ Twitter Web Client เท่านั้นนะ ถ้าเกิดมีการใช้ 3rd party มันก็อาจจะมีการบอกได้ว่าใช้แอปหรือบริการอะไรอยู่ ฉะนั้นก็อยากฝากคนทำ PR โดยเฉพาะแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับสมาร์ทโฟน ให้ระวังให้มากๆ อย่าโป๊ะแตกละกัน