สถาการณ์ฝุ่นละอองภายในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกกำลังย่ำแย่ครับ ประเทศไทยก็ใช่ย่อย ถ้าใครใช้แอปเช่น Air Matters หรือ AirVisual คอยติดตามดูคุณภาพของอากาศ จะเห็นได้ว่ากรุงเทพมหานครนี่ อากาศอยุ่ในคุณภาพที่เป็นสีเหลือง (ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ) หรือ ก็คือ ไม่เหมาะที่จะไปเดินๆ อยู่เป็นเวลานานๆ โดยไม่ใส่เครื่องป้องกัน วันนี้ก็เลยขอรีวิวแกดเจ็ตที่จะเข้ามาช่วยป้องกันเราจากปัญหามลพิษนี้ นั่นก็คือ Xiaomi Purely Anti-pollution Mask นั่นเอง
สิ่งที่ทำให้ผมสอยเจ้า Xiaomi Purely Anti-pollution Mask มาลองใช้นั่นก็คือ การที่เจ้านี่มันมีพัดลมติดมาให้ด้วยครับ ไม่ใช่เพื่อเป่าให้เรารู้สึกเย็นสบายนะ แต่เพื่อเอาไว้ดูดอากาศเข้ามาภายในหน้ากาก เพื่อให้การไหลเวียนของอากาศที่จะให้เราหายใจมันดีขึ้นครับ อันนี้ก็เพื่อแก้ปัญหาที่บางคนใส่หน้ากากแล้วรู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวกนั่นเอง
แกะกล่อง Xiaomi Purely Anti-pollution Mask กันก่อน
แกะกล่องออกมาแล้ว ภายในเราจะเห็นตัวหน้ากากที่ทำมาจากผ้า เขาโฆษณาว่าเย็บด้วยมือกันเลยทีเดียว ซึ่งตัวหน้ากาจะมีใส่ฟิลเตอร์ (หน้ากากสีขาวๆ) มาให้อันนึงแล้ว และจะมีตัวฟิลเตอร์สำรองมาให้อีกอัน และมีฟิลเตอร์สำหรับใส่กับพัดลมดูดอากาศมาให้อีก 4 ชิ้น เลยพอจะเดาได้ว่าฟิลเตอร์อันนี้ต้องอายุการใช้งานสั้นกว่าแน่นอน (ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะมันมีพัดลมคอยดูดฝุ่นเข้ามานี่นะ) แล้วก็จะมีชิ้นพลาสติกสีฟ้าๆ ใสๆ มาให้อันนึง อันนี้คืออุปกรณ์ที่เอาไว้ถอดฝาปิดฟิลเตอร์ของพัดลมออกมาครับ และสุดท้ายคือ คู่มือ ซึ่งเป็นภาษาจีนล้วนๆ ไม่เกิดประโยชน์อันใดกับคนไทยเรา ดูแล้วรู้เลยว่า อุปกรณ์ชิ้นนี้ทำออกมาเพื่อคนจีนเป็นหลักก่อนละมั้ง

ตัวหน้ากากนี่เป็นผ้าอย่างดี มีสีเทา สวยเลยแหละ และก็มีรูผ้าที่อากาศถ่ายเทได้ในระดับนึง ตรงมุมทั้งสองข้าม เป็นผ้ายางยืด ที่เอาไว้สอดฟิลเตอร์สีขาวอีกชั้น ซึ่งตัวฟิลเตอร์นี่เป็นระดับ KN95
KN95 หมายความว่า..
KN95 เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม หมายความว่าสามารถกรองฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.3 ไมครอนได้ 95% ฟิลเตอร์ที่ได้รับมาตรฐานนี้ ก็จะสามารถกรองฝุ่นระดับ PM10 และ PM2.5 ได้
N95 is an industry standard and means that the mask provides the intended effectiveness of filtering 95 percent of particles with a mass median diameter of 0.3 micrometers. Therefore, our mask can protect you well from PM10, PM2.5, and even smaller particles.
ดีไซน์ของยางยืดที่เอาไว้รัดหน้ากากกับใบหน้าของเราทำออกมาได้แบบใส่ใจดีครับ คือ หน้ากากแบบทั่วไป มันจะต้องเอายางยืดไปเกี่ยวกับหูของเรา แล้วยางยืดมันแน่นมาก (เพราะต้องให้หน้ากากแนบกับใบหน้าของเรา) ส่งผลให้มันแอบรำคาญเนื่องจากใบหูจะโดดยางยืดดึงจนบิดเลยครับ แต่การมีตะขอเกี่ยวแบบนี้ มันทำให้เราเอาหน้ากากรัดกับทั้งหัวของเราแทน ใบหูไม่ต้องบิดเพราะโดนดึง สวมใส่สบายกว่าเยอะ

ก่อนใช้งานผมต้องขอลองคุ้ยแคะแกะเกามันก่อน เริ่มจากฝาปิดฟิลเตอร์ ซึ่งก็คือส่วนของพัดลมที่เราเห็นอยู่บนหน้ากากนั่นแหละ ด้านข้างจะมีไฟ LED เล็กๆ ที่เอาไว้บอกสถานะการทำงานของพัดลม ซึ่งไฟมันหรี่มากๆ จนเรียกว่ากลางแจ้งมองแทบไม่เห็น
การจะเปิดฝาได้ก็ต้องใช้อุปกรณ์เปิดฝาที่แถมมาด้วยมาเปิดครับ แต่ถ้าทำหายก็ไม่ใช่ปัญหา มันไม่ได้ปิดแน่นมาก เอาเล็บแหย่ๆ ลงไปแล้วออกแรงนิดหน่อย เปิดได้เหมือนกัน ผมลองมาแล้ว


พัดลมจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ความจุ 500mAh ซึ่งสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ราวๆ 4-8 ชั่วโมง อยู่ที่ว่าเราเปิดพัดลมแรงแค่ไหนอะนะ ในภาพรวม ก็คิดง่ายๆ ว่า สองวันชาร์จแบตเตอรี่ทีนึงแล้วกัน
ปุ่มกดทำงานแบบนี้ครับ กดค้าง 3 วิ เป็นการเปิด กดค้างอีก 3 วิ ก็เป็นการปิด ถ้าเปิดพัดลมอยู่ กดทีนึงจะเป็นการปรับระดับความเร็ว มีเบา กลาง แรง แค่สามระดับนี่แหละ

แบตเตอรี่หมด ก็สามารถชาร์จใหม่ได้ ผ่านพอร์ต Micro USB 2.0 ที่อยู่ตรงด้านล่างของพัดลมนั่นแหละ

ตัวฟิลเตอร์สีขาวนี่ถอดเปลี่ยนได้ มีอะไหล่ขายให้เอาไว้เปลี่ยน และแถมมาให้แล้วอันนึง เห็นว่าใช้ได้นานหลายเดือนอยู่อะนะ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ แต่จะเปลี่ยนทีนึงก็ต้องถอดพัดลมออกก่อน

วิธีการถอดก็คือ ต้องบิดตัวพัดลมนิดหน่อย โดยบิดตามเข็มนาฬิกา (ดูแนวของการวางตัวอักษรคำว่า Purely) ให้คลายล็อก แล้วจะถอดตัวพัดลมออกได้ แล้วค่อยแกะตัวยึดพัดลมออกจากหน้ากากอีกที แล้วจึงถอดฟิลเตอร์สีขาวออกมา

ทีนี้ลองเอา Xiaomi Purely Anti-pollution Mask ไปใส่ใช้งานจริงๆ จังๆ
ในฐานะที่ผมเป็นคนที่อยู่บนท้องถนนวันนึงๆ ก็ 1-2 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย และสัปดาห์นึงก็จะมีการเดินจากออฟฟิศกลับบ้าน ซึ่งก็ต้องเดินริมถนน เป็นระยะทางกว่า 6.5 กิโลเมตร หรือใช้เวลาเดินราวๆ 1 ชั่วโมง 20 นาที หรือไม่ก็ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป็นระยะทาง 7-11 กิโลเมตร ต้องสูดดมควันพิษบ่อยๆ และการใส่หน้ากากแบบเดิมๆ มันก็น่ารำคาญมาก เพราะหายใจลำบาก และร้อน เลยอยากรู้ว่า Xiaomi Purely Anti-pollution Mask นี่จะเข้ามาช่วยได้มากน้อยแค่ไหน

ลองใส่แล้ว ทั้งเดิน ทั้งขี่สกู๊ตเตอร์ ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าประทับใจในเรื่องการไหลเวียนของอากาศ เพราะมันทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด การดีไซน์ที่ไม่ให้ยางยืดมารัดใบหู ใส่แล้วสบายมาก ใส่นานๆ ก็โอเค ถามว่ายังรู้สึกร้อนไหม ก็มีบ้าง แต่ไม่มากเท่าหน้ากากแบบเดิมๆ ครับ
ในส่วนของการป้องกันฝุ่นละออง อันนี้ผมวัดผลยาก แต่ตอบได้ว่าตอนเดินผ่านบริเวณไซต์งานก่อสร้างที่ฝุ่นคละคลุ้ง หรือเจอควันดำของรถเมล์เข้าแบบจังๆ ผมไม่รู้สึกว่ามันเหม็นมากจนแบบทนไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันกัน “กลิ่น” ได้สมบูรณ์แบบ เพราะเดินผ่านร้านหมูปิ้ง ยังได้กลิ่นหมูปิ้งอยู่นะ แต่กลิ่นควันนี่หายไปเยอะมาก เป็นต้น
บทสรุปการรีวิว Xiaomi Purely Anti-pollution Mask
สนนราคาของ Xiaomi Purely Anti-pollution Mask นี่ไม่ถือว่าถูกนะครับ ไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (แม้แต่ Xiaomi Store ในไทยก็ไม่เห็นเอามาขาย) ต้องหาซื้อออนไลน์เอา ซึ่งราคาจะอยู่ระหว่างเกือบๆ หกร้อยไปจนถึงเกือบๆ เจ็ดร้อยบาท ถ้าถูกหน่อยก็จะต้องรอของส่งมาจากจีน ถ้าแพงอีกไม่กี่สิบบาท ก็จะได้ร้านที่มีสต็อกอยู่ในไทยเลย ได้ของเร็วหน่อย (ผมเลือกร้านที่มีสต็อกของ สั่งปุ๊บตอนเที่ยงคืน เช้าวันถัดมาส่งของ วันต่อมาได้ของเลย)
ผมว่าในด้านความสามารถของการกันฝุ่นละอองมันทำได้พอๆ กับหน้ากาก N95 ของ 3M อะครับ (เคยใช้อยู่พักนึง) แต่ที่มันเจ๋งกว่าคือ ความรู้สึกสวมใส่แล้วสบาย ไม่อึดอัด ไม่ร้อนมาก เหมือนกับหน้ากากแบบเดิมๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าตัวที่แพงขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว แบบนี้ต้องเลือกเอาครับ
ถ้าสนใจ ตอนนี้มีขายอย่างเป็นทางการในไทยแล้ว โดย Banana IT สั่งซื้อออนไลน์ คลิกลิงก์ด้านล่างได้ (ราคาจะแพงกว่าพวกร้านหิ้วอยู่ประมาณนึงเลย แต่ผมว่าซื้อร้านที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการดีกว่า)
ฟิลเตอร์สีขาวกับสีฟ้านี่มันซักได้มั้ยครับ
ซักไม่ได้ครับ ต้องซื้อมาเปลี่ยน
ตัวหน้ากากนี้ สามารถถอดพัดลมออก แล้วเอาไปซักทำความสะอาดได้มั้ยครับ เพราะราคาขนาดนี้ถ้าใช้ได้แค่ระยะสั้นคงไม่คุ้มค่าน่ะครับ
ด้านนอกถอดซักได้ แต่ฟิลเตอร์ด้านใน ต้องซื้อมาเปลี่ยนครับ
ฟิลเตอร์ซื้อได้ที่ไหนครับ
Lazada ก็มีขายครับ แต่ผมซื้อจาก Aliexpress ดูจะได้ของเร็วกว่า แล้วก็ราคาถูกกว่านิดหน่อย