QNAP NAS เป็น NAS แบรนด์แรกๆ เลยที่ผลักดันให้ NAS ทั้งรุ่นสำหรับผู้ใช้งานในองค์กรและตามบ้าน รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ความเร็ว 10 กิกะบิต (10GbE) เพราะมองการณ์ไกลว่าปัจจุบัน ไม่ว่าจะงานที่พบเห็นได้บ่อยๆ ในองค์กรอย่าง Virtualization, การสำรองและกู้คืนข้อมูล, การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ หรือการใช้งานตามบ้าน เช่น การสตรีมมิ่งไฟล์มัลติมีเดียความละเอียดสูงเพื่อความบันเทิง ต่างก็จะได้ประโยชน์จากแบนด์วิธที่เพิ่มขึ้นอย่าง 10GbE ด้วยกันทั้งนั้น
บอกให้รู้ก่อน
บทความนี้เรียบเรียงมาจากบล็อก How to get the most from 10GbE networking: a practical guide ของ QNAP ครับ
บทความนี้ ทาง QNAP เขียนมาให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งกรณีที่ใช้ LAN แบบ 10GbE อยู่แล้ว หรือสำหรับบางคนที่สนใจอยากอัพเกรดเครือข่ายให้เป็น 10GbE และกำลังอยากได้ข้อมูลว่าจะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง เพราะหากไม่ปรับตั้งค่าและเตรียมอุปกรณ์ให้เหมาะสม คุณก็ไม่อาจได้ประโยชน์จาก 10GbE นี่อย่างเต็มที่หรอกนะครับ

ความเร็วระดับ 10GbE นั้น หากแปลงหน่วยเป็น เมกะไบต์ต่อวินาทีแล้ว ก็จะอยู่ที่ 1.25GB/s โดยประมาณในทางทฤษฎีครับ แต่เราจะต้องทำยังไง เพื่อไปให้ถึงจุดนั้นล่ะ?
SSD เป็นของที่ขาดไม่ได้เลย
SSD หรือ Solid-state Drives เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยครับ หากเราอยากจะให้ QNAP NAS มีแบนด์วิธของดิสก์ไปถึงระดับที่ตอบโจทย์ 10GbE ได้ เพราะความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลมันสูงกว่าฮาร์ดดิสก์แบบดั้งเดิมเยอะ
ซึ่งการใช้ SSD สำหรับ QNAP NAS เนี่ย มันมีด้วยกันสองทางครับ ทางแรกคือสายเปย์ เปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ทุกตัวเป็น SSD ให้หมดเลย (ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อความจุนี่สูงเอาเรื่อง เมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบดั้งเดิม) และอีกแบบคือ การใช้ SSD เอามาทำแคช (Cache) ช่วยเสริมการทำงานของฮาร์ดดิสก์แบบเดิม ซึ่งวิธีนี้ช่วยประหยัดเงินและยังคงได้ประสิทธิภาพที่เหมาะกับแบนด์วิธระดับ 10GbE

มี QNAP NAS หลายรุ่นที่มีถาด (Bay) สำหรับใส่ SSD ซึ่งมีขนาด 2.5 นิ้ว หรืออาจจะรองรับ M.2 SSD โดยเฉพาะ ถ้าแบบนี้ เราก็สามารถทำ SSD Cache ได้โดยไม่ต้องสละถาดสำหรับใส่ฮาร์ดดิสก์ไป ซึ่งทำให้ความจุสูงสุดลดลง แต่รุ่นไหนที่ไม่มี แต่ยังคงมีจำนวนถาดตั้งแต่ 4 ขึ้นไป ก็อาจจะพิจารณาสละซัก 1-2 Bay เอามาใส่ SSD ได้
สำหรับผู้ใช้งานระดับองค์กร QNAP ขอแนะนำให้ใช้ SSD อย่างน้อย 4 ตัวเอามาทำ RAID10 เพื่อเป็นแคช ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพดีที่สุด และยี่ห้อที่แนะนำคือ Samsung หรือไม่ก็ของ Intel และแน่นอนว่าหากต้องการให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดๆ จริงๆ ก็ควรจะเลือกใช้ QNAP NAS รุ่นไฮเอนด์สำหรับธุรกิจด้วย
และหากอยากได้ประสิทธิภาพจาก SSD ได้ในระยะยาวด้วย ก็แนะนำให้ทำ Over-provisioning ซะนะครับ มันจะช่วยยืดอายุการใช้งานของ SSD ออกไปได้อีก ซึ่งตรงนี้ QNAP NAS มี SSD Profiling Tool เอาไว้ช่วยประเมินเนื้อที่ที่จำเป็นในการทำ Over-provisioning เอาไว้ให้แล้ว
และท้ายที่สุดคือ เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใดก็ตามที่จะใช้งานร่วมกับ QNAP NAS และอยากได้ความเร็วเต็มแบนด์วิธ 10GbE ก็ควรจะมี SSD ที่เร็วพอ เป็นสื่อบันทึกข้อมูลหลักด้วยนะครับ
เปลี่ยนมาใช้ Switch แบบ 10GbE
เอาล่ะ มี QNAP NAS ที่รองรับ 10GbE แล้ว เตรียม SSD Cache เอาไว้เพื่อให้แบนด์วิธในการอ่านและเขียนข้อมูลได้ประโยชน์จากแบนด์วิธระดับนี้แล้ว ถัดมาก็ต้องเตรียมแบนด์วิธเครือข่ายให้เป็น 10GbE ด้วยสิครับ และตรงนี้ QNAP ก็มี Network switch แบบ 10GbE เอาไว้แล้ว คือ QSW-804-4C (8 พอร์ต) และ QSW-1208-8C (12 พอร์ต) ที่รองรับทั้ง SFP+ และ RJ-45 ในราคาที่เอื้อมถึง (ในส่วนของราคา แนะนำให้ติดต่อกับ QNAP Thailand เอานะครับ)

อ้อ! แล้วก็อย่าลืมเลือกใช้สายเคเบิลที่รองรับ 10GbE ที่มีคุณภาพด้วยนะครับ
อย่าลืมอัพเกรดคอมพิวเตอร์ของคุณให้รองรับ 10GbE ด้วย
เมื่อต้นทางมีแบนด์วิธ 10GbE แล้ว หากอยากได้ประโยชน์จากแบนด์วิธนี้แบบสุดๆ ด้วย ก็ต้องอัพเกรดให้ปลายทางรองรับ 10GbE ด้วย แต่ปกติแล้ว 10GbE นี่จะมีให้ใช้บนพวกเครื่องระดับ Workstation แบบไฮเอนด์เท่านั้นแหละ ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ทั่วไป ก็ต้องหาอะแดปเตอร์มาอัพเกรดครับ

ถ้าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่มีสล็อต PCI Express ก็ไปหาซื้อการ์ด 10GbE อย่าง QXG-10G1T มาเสียบซะ แต่ถ้าไม่มีสล็อต PCI Express เช่น พวกโน้ตบุ๊ก แต่หากมีพอร์ต Thunderbolt 3 ก็ไปหา QNA-T310G1T (สำหรับ RJ-45) หรือ QNA-T310G1S (สำหรับ SFP+) มาใช้ได้ครับ
แล้วไปตั้งค่า MTU ของ QNAP NAS เป็น 9000 ด้วย

พอทุกอย่างพร้อมแล้ว สุดท้ายไปที่ QTS ครับ ไปตรง Network & Virtual Switch แล้วไปตั้งค่าใน Network > Interfaces แล้วตั้งค่า Jumbo Frame เป็น 9000 ด้วย ตรงนี้แหละ คือค่า MTU หรือ Maximum Transmission Unit นั่นเอง
แล้วก็ไปตั้งค่า MTU ในตัวระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS ด้วยนะครับ มันจะอยู่ตรง Network properties/settings นั่นแหละ
แบนด์วิธ 10GbE ประกาศศักดาได้ซะที
หลังจากที่ทำทุกอย่างข้างต้นแล้ว คุณก็น่าจะได้ความเร็วเต็มเหนี่ยวสำหรับ 10GbE ซะทีครับ แน่นอนว่าความเร็วที่ได้นั้นอาจจะยังไปไม่ถึงระดับทฤษฎีที่ 1.25GB/s แต่ก็น่าจะใกล้เคียงกับ 1GB/s กันละครับ ทั้งอ่านและเขียนข้อมูล

ขอสรุปอีกครั้งถึงขั้นตอนการตั้งค่านะครับ
- ใช้ SSD จำนวนนึงเอามาทำ RAID10 เพื่อให้ได้ SSD Cache ที่ประสิทธิภาพในการเขียนและอ่านรวดเร็ว
- ทำ Over-provisioning เพิ่มให้กับ SSD โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่แนะนำโดย SSD Profiling Tool ของ QNAP NAS
- ใช้ 10GbE Network switch ที่มีประสิทธิภาพดีอย่างเช่น QNAP QSW Series.
- อัพเกรดคอมพิวเตอร์ของคุณให้รองรับ 10GbE ด้วย โดยเลือกใช้อะแดปเตอร์ QXG หรือ QNA series
- ปิดท้ายด้วยการตั้ง Jumbo Frame (MTU) ให้เท่ากับ 9000