มีวันนึงผมไปร่วม Facebook Live ให้กับบริษัท Synnex มา เพื่อพูดถึงเรื่องประโยชน์ของ NAS ในการเก็บข้อมูล และความแตกต่างของ NAS กับ ฮาร์ดดิสก์พกพา โดยอ้างอิงจาก QNAP NAS เป็นหลัก เพราะผมเป็นผู้ใช้งานยี่ห้อน้ออะนะ ผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับผู้อ่านท่านใดที่ยังไม่ได้ซื้อ NAS มาใช้ และยังไม่แน่ใจว่ามันจะมีประโยชน์อะไรกับคุณ
ก่อนอื่น ขอออกตัวล้อฟรีก่อนเลยว่า ผมไม่ได้มายุแยงให้ท่านผู้อ่านซื้อ NAS กันนะครับ การที่จะเลือกซื้อ NAS หรือ ฮาร์ดดิสก์พกพา มาใช้เก็บข้อมูล มันก็ขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลที่เราต้องการจะเก็บนั้นสำคัญแค่ไหน คืออะไร มีปริมาณมากแค่ไหน และที่สำคัญคือ พฤติกรรมการเข้าถึงข้อมูลของเราเป็นอย่างไร
ฉะนั้น ก่อนอื่นผมอยากให้ทำความเข้าใจก่อนว่า ฮาร์ดดิสก์พกพา และ QNAP NAS มันมีจุดเด่นและข้อจำกัดกันตรงไหนยังไง
เริ่มจาก ฮาร์ดดิสก์พกพา ก่อนเลย
ฮาร์ดดิสก์พกพาหาซื้อง่ายกว่า NAS มาก มีราคาเริ่มต้นที่ไม่แพง มีความจุให้เลือกหลากหลาย เลือกได้ทั้งแบบดั้งเดิมที่มีความเร็วไม่มาก ไปจนถึงแบบ SSD ที่ความเร็วสูง ราคาเริ่มต้นตั้งแต่เกือบๆ พัน (SSD 120GB) ไปจนถึงเป็นหมื่น (SSD 1TB) อะไรแบบนี้

จุดเด่น
- เสียบต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานง่าย เสียบผ่านพอร์ต USB-A หรือ USB-C เอา
- มีขนาดเล็กและเบา พกพาไปไหนมาไหนสะดวก
- ฮาร์ดดิสก์พกพาทั้งที่เป็นแบบดั้งเดิม หรือ SSD ในปัจจุบันสามารถใช้พลังไฟจากพอร์ต USB ได้เลย ไม่ต้องเสียบปลั๊กเพิ่ม
- ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลค่อนข้างสูง คือตั้งแต่ 100MB/s ไปจนถึง 3GB/s กันเลยทีเดียว อยู่ที่ว่าใช้ฮาร์ดดิสก์แบบไหน และใช้พอร์ตการเชื่อมต่ออะไร (การรองรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ส่งผลเช่นกัน)
ข้อจำกัด
- ความจุไม่มาก ฮาร์ดดิสก์พกพาในปัจจุบันที่หาซื้อได้ ใหญ่สุดก็ 4TB
- ไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันข้อมูลสูญหายจากเหตุสุดวิสัย เช่น ข้อบกพร่องจากฮาร์ดแวร์ หรือ ความเผลอเรอ
- การพกพาไปไหนมาไหน มีความเสี่ยงที่จะทำให้ข้อมูลสูญหาย เช่น ตกหล่นกระแทก หรือ ทำหายไปจริงๆ อะไรแบบนี้
- การเข้าถึงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์พกพา ทำได้ทีละอุปกรณ์เท่านั้น ยกเว้นจะใช้รุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน WiFi (เช่น WD My Passport Wireless Pro เป็นต้น)
ทีนี้มาดูในส่วนของ QNAP NAS กันบ้าง
พอบอกว่ามันคือ NAS หลายคนก็จะสงสัยว่า NAS มันคืออะไร ถ้าจะให้อธิบายแบบง่ายๆ NAS มันก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนึงนี่แหละ เพียงแต่ว่ามันคือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เน้นเรื่องการเก็บข้อมูลมากกว่าที่จะไปประมวลผลด้านอื่นๆ แต่ NAS รุ่นไฮเอนด์ๆ หน่อย จะมีหน่วยประมวลผลที่ประสิทธิภาพสูงไม่แพ้พวกเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป ส่งผลให้มันสามารถทำโน่นทำนี่เพิ่มได้เยอะแยะมากมาย ไม่แพ้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเผลอๆ ดีกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์บางสเปกซะอีก

จุดเด่น
- มีความจุสูง ปัจจุบันรุ่น 1-bay ใส่ฮาร์ดดิสก์สูงสุดได้ 10TB
- มีความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นเพื่อเพิ่มความจุได้ เช่น ต่อกับฮาร์ดดิสก์พกพา ต่อกับ NAS ตัวอื่น หรือต่อกับ Expansion unit
- มีความสามารถคล้ายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถทำอะไรได้หลากหลายกว่า เช่น เป็นเซิร์ฟเวอร์
- เชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต สามารถเข้าถึงได้จากหลากหลายอุปกรณ์ผ่าน LAN หรืออินเทอร์เน็ต
- มีคุณสมบัติในการป้องกันข้อมูลสูญหายจากเหตุสุดวิสัยต่างๆ เช่น ฮาร์ดแวร์ชำรุด หรือ เผลอเรอลบข้อมูลไป แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่การตั้งค่า
ข้อจำกัด
- มีขนาดใหญ่ น้ำหนักพอสมควร พกพาไปไหนไม่สะดวก การใช้งานยุ่งยากกว่าฮาร์ดดิสกพกพาพอสมควร
- การเข้าถึงข้อมูลข้างใน มักต้องทำผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น LAN หรืออินเทอร์เน็ต จะมี QNAP NAS แค่บางรุ่น (บางรุ่นจริงๆ) ที่เข้าถึงได้โดยตรงผ่านพอร์ต USB-A, USB-C หรือ Thunderbolt
- ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลไม่สูงมาก ก็อยู่ที่ว่าเครือข่าย LAN หรืออินเทอร์เน็ตจะวิ่งได้เร็วแค่ไหน ส่วนใหญ่ก็คือสูงสุด 1Gbps (เต็มที่ 125MB/s) ผ่าน LAN ตามบ้าน หรือ 10Gbps (1.25GB/s) ผ่าน Thunderbolt 3 ก็ 40Gbps (5GB/s) แต่สุดท้ายมันก็ไปจบที่ว่าฮาร์ดดิสก์ที่ใส่เข้าไป มันเร็วแค่ไหนด้วย ที่ผมเคยทดสอบคือใส่ฮาร์ดดิสก์แบบธรรมดา RAID5 ได้ความเร็วประมาณ 1GB/s จาก Thunderbolt 2
- มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับฮาร์ดดิสก์พกพา ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะว่ามันก็ใกล้เคียงกับการซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์มาใส่ฮาร์ดดิสก์นั่นแหละ
เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์พกพาเพียงอย่างเดียว หรือผสมผสานร่วมกับ QNAP NAS
ในความเห็นส่วนตัว ถ้าเกิดถามผมว่าจะเลือกใช้อะไรดี ระหว่าง QNAP NAS กับ ฮาร์ดดิสก์พกพา ผมอยากบอกตรงๆ ว่า ต้องดูจากความต้องการในการใช้งานของเราเป็นหลักครับ ผมแนะนำแบบนี้
ใช้ฮาร์ดดิสก์พกพา พกข้อมูลติดตัว เอาไว้ไปถ่ายโอนข้อมูลแบบง่ายๆ เร็วๆ
คิดซะว่าฮาร์ดดิสก็พกพามันก็เหมือนแฟลชไดร์ฟขนาดใหญ่อะครับ ยิ่งถ้าเราต้องการถ่ายโอนข้อมูลแค่หลัก 100-200GB เท่านั้น พก SSD ไปยังดีกว่าพกแฟลชไดร์ฟซะอีกนะผมว่า การเอาข้อมูลมาใส่ฮาร์ดดิสก์พกพา มันเป็นแค่เรื่องชั่วคราวเท่านั้น ประมาณว่าถ้าเกิดเหตุสุดวิสัย ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์สูญหายไป ก็ไม่กังวล เพราะมันยังมีสำเนาอยู่ที่อื่น เช่น ในสื่อบันทึกข้อมูลอื่นๆ ของเราหรือของคนอื่น

จำไว้ครับ เอาข้อมูลมาใส่ฮาร์ดดิสก์ แล้วรีบไปถ่ายโอนให้คนอื่นต่อเลย หรือ พอไปเอาข้อมูลจากคนอื่นมาแล้ว ก็รีบถ่ายโอนข้อมูลกลับมาเก็บเป็นสำเนาในที่ปลอดภัย เช่น QNAP NAS เป็นต้น อะไรแบบนี้
QNAP NAS เอาไว้ทำ Personal cloud และเก็บข้อมูลเป็นตัวหลัก ป้องกันเผื่อสูญหาย
NAS มันมีจุดด้อยตรงพกพาไปไหนมาไหนลำบาก (ไหนจะหนัก ไหนจะใหญ่ ไหนจะต้องเสียบปลั๊กไฟจริงๆ จังๆ อีก) แต่มันก็มีจุดเด่นตรงที่มีความจุสูงและมีคุณสมบัติในการป้องกันข้อมูลสูญหายต่างๆ เช่น RAID, Snapshot และอื่นๆ อีกมากมาย ฉะนั้นเอา NAS มาไว้ทำที่เก็บข้อมูลเป็นตัวหลัก (ต้นฉบับ) แทน ใช้เก็บข้อมูลที่ถ่ายโอนมาจากพวกฮาร์ดดิสก์หรืออุปกรณ์อื่น

และไหนๆ ก็ซื้อ QNAP NAS มาแล้ว ก็อย่าลืมเซ็ต myQNAPcloud เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้ใน NAS ได้ผ่านอินเทอร์เน็ต เอาไว้แชร์ให้คนอื่น หรือทำการซิงก์กับไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ของเราได้ เหมือนกับที่เราทำบน Cloud storage อย่าง Dropbox, Google Drive, iCloud, OneDrive อะไรแบบนี้
แต่ถ้าคุณคิดว่า คุณเอาฮาร์ดดิสก์พกพาเอาไว้ถ่ายโอนข้อมูล แล้วก็หาซื้อฮาร์ดดิสก์พกพาเพิ่ม เอาไว้มาทำสำเนาเก็บไว้ เป็นการสำรองข้อมูลด้วยตัวเอง หรือโดยใช้ซอฟต์แวร์อื่นช่วย ถ้ามั่นใจว่าจะไม่เผลอไม่พลาด และมีการสำเนาข้อมูลเอาไว้ดีพอ NAS ก็อาจจะไม่จำเป็นครับ การมี NAS มันช่วยอำนวยความสะดวกว่าเราจะไม่เผลอเรอแน่ๆ (ถ้าเรามีการเซ็ตอัพเอาไว้ดีพอ) อย่าลืมนะครับ ข้อมูลที่สำคัญ มันมักจะมีราคา มีคุณค่ามากกว่าเงินที่เราเสียซื้อ NAS บวกกับฮาร์ดดิสก์เยอะครับ