ASUS Zenfone 5z รุ่นแรม 6GB ความจุ 128GB อาจจะไม่ใช่สเปกสูงสุด แต่ก็เป็นรุ่นเริ่มต้นของเรือธงตัวล่าสุดจากค่าย ASUS นี่ กับสเปกหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 ในสนนราคาแค่หมื่นกลางๆ เท่านั้นเอง (15,990 บาท) นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนสเปกแรง แต่ราคาไม่แรง ที่น่าสนใจตัวนึงเลย แต่หลายๆ ท่านอาจไม่คุ้นเท่าไหร่ เพราะดูจะไม่ค่อยโปรโมทครับ ก็เลยถือโอกาส ขอมารีวิวให้ได้อ่านกันเลย
วิจารณ์รูปร่างหน้าตาของ ASUS Zenfone 5z กันก่อน
ASUS Zenfone 5z เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอแสดงผลขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ความละเอียด 2,246×1080 พิกเซล เป็นแบบไร้ปุ่ม และมีรอยแหว่ง (ซึ่งสามารถตั้งปิดรอยแหว่งได้) ตามสมัยนิยม มาพร้อมกับกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูปรับแสงกว้าง f2.0






ส่วนด้านหลังเป็นดีไซน์กระจกสวยทีเดียว มาพร้อมกับตัวสแกนลายนิ้วมือ และกล้องดิจิทัลคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f1.8 เป็นเลนส์เทเล คู่กับกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f2.0 เป็นเลนส์มุมกว้างที่เรียกว่า Ultrawide
รอบๆ ตัวเครื่อง ด้านบนจะมีรูไมโครโฟนสำหรับตอนถ่ายวิดีโอ ส่วนด้านล่างก็มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น รูไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์และตอนบันทึกวิดีโอ แล้วก็มีลำโพงของตัวเครื่อง และด้านซ้ายก็จะมีถาดใส่ซิมและ MicroSD card ส่วนด้านขวาก็จะเป็นปุ่ม Volume กับ Power

ในแง่ของการดีไซน์แล้ว แม้จะไม่ได้มีอะไรโดดเด่นไปกว่าคู่แข่ง แต่ก็เรียกได้ว่ามีความหรูหราในฐานะเรือธงเลยล่ะครับ แต่เมื่อพิจารณาราคาค่าตัวแล้ว เรียกว่าเป็นเรือธงที่คุ้มค่าเอามากๆ เสียดายตรงที่มีเคส TPU มาให้ใช้ แต่ไม่ได้มีฟิล์มกันรอยมาให้ด้วยนี่สิ (เอ๊ะ! หรือมีมาให้ แต่บล็อกเกอร์ที่รีวิวก่อนหน้าแกะออกไปหว่า)
สเปกของ ASUS Zenfone 5z เป็นยังไงบ้าง?
แม้จะบอกว่า ASUS Zenfone 5z จะมาพร้อมสเปกระดับเรือธง แต่รุ่นเริ่มต้น ที่ให้หน่วยความจำ 6GB กับความจุ 128GB ก็ยังไม่ถึงกับเรียกว่าสเปกเทียบเท่าเรือธงหรอกนะ (ยกเว้นหน่วยประมวลผล) แต่ผมลองวัดประสิทธิภาพของ NAND flash ที่ ASUS เลือกใช้ ความเร็วในการอ่าน 802MB/s และเขียน 221MB/s ถือว่าเร็วดีมากทีเดียวครับ สมกับเป็นเรือธงเลยล่ะ (เทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นกลางๆ ที่ราคาเปิดตัวพอๆ กัน อย่าง Vivo X21 ที่อ่าน 245MB/s เขียน 157MB/s ตอนผมทดสอบ เรียกว่าเร็วกว่ากันขาดลอย) มันเป็นความแตกต่างที่ดูจากแค่เลขสเปกไม่ได้จริงๆ ครับ ต้องวัดกันเน้นๆ
หน่วยประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 845 Octacore (4×2.7GHz Kyro 385 Gold+ 4×1.7GHz Kyro 385 Silver) |
กราฟิก | Adreno 630 |
หน่วยความจำและความจุ | หน่วยความจำ: 6GB ความจุ: 128GB |
หน้าจอแสดงผล | IPS LCD Full HD 2,246×1080 พิกเซล อัตราส่วนการแสดงผล 18.7:9 |
กล้องดิจิทัล | กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f2.0 กล้องหลัง กล้องคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f1.8 OIS ออโต้โฟกัส และ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f2.0 Ultrawide |
การเชื่อมต่อไร้สาย | เครือข่ายมือถือ: 2G/3G/4G LTE WiFi: 802.11a/b/g/n/ac Bluetooth 5.0 A2DP, LE NFC: มี |
แบตเตอรี่ | ลิเธียมไออออน 3,300mAh |
สเปกของ ASUS Zenfone 5z แบบคร่าวๆ ก็ตามตารางด้านบนครับ ถ้าจะให้วิจารณ์กันแบบเน้นๆ ก็ต้องขอบอกว่า เป็นสเปกระดับเรือธงจริงๆ หน่วยประมวลผลก็เป็นแบบเร็วปรี๊ด ที่แบรนด์ใหญ่ๆ เขาใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นราคาสองหมื่นกว่าขึ้นไป และเลือกใช้ NAND Flash ความเร็วสูงสะใจดีมาก

กล้องหลังคู่ เลนส์เทเล 12 ล้านพิกเซล และเลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล ก็เป็นเรื่องปกติ ในยุคที่บางค่ายเขาไม่เน้นแข่งจำนวนพิกเซลกันแล้ว แต่กล้องหน้าเนี่ย ผมว่าน่าจะใส่แบบ 24 ล้านพิกเซลมาเหมือนค่ายอย่าง OPPO หรือ Vivo ก็น่าจะดีนะ
ประสบการณ์ใช้ ASUS Zenfone 5z เป็นยังไงบ้าง?
คุณสามารถคาดหวังประสบการณ์ในการใช้งานที่ค่อนข้างลื่นไหนจาก ASUS Zenfone 5z ได้เลยแหละครับ ด้วยประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผล Snapdragon 845 หน่วยความจำ 6GB และ NAND Flash 128GB ที่ความเร็วในการอ่านระดับ 800MB/s แบบนี้ และหากคิดว่าความเร็วยังไม่พอ ก็เปิดโหมด AI Boost ได้ครับ จะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นได้อีกประมาณนึง ซึ่งเหมาะสำหรับเวลาที่เราเล่นเกมที่กินสเปกเครื่องเยอะๆ ครับ

ASUS Zenfone 5z มาพร้อมกับ ZenUI 5 บนพื้นฐานของ Android 8.0 Oreo และ Android security patch level วันที่ 5 ตุลาคม 2561 ซึ่งไม่ได้ถือว่าใหม่ล่าสุด แต่ก็ไม่ได้เก่าเวอร์อะไร และมีวี่แววว่าจะได้อัพเกรดเป็น Android 9.0 Pie ด้วย ตัวนี้ยังเรียกว่าอนาคตยังไปต่อได้

ตัว ZenUI มีการปรับแต่งให้ใช้งานได้ง่ายประมาณนึงเลย และวิธีการเรียก App tray ขึ้นมา ก็เป็นแบบปาดนิ้วเลื่อนขึ้นแบบ Android 8.0 ที่ผมว่าใช้งานง่าย และเข้าใจได้ไม่ยาก และหากใครชอบการใช้ Gesture แทนปุ่ม Home, Back และ Recent apps เช่นเดียวกับผม เราก็สามารถปรับตั้งค่าได้ครับ เพียงแต่ผมพบว่ามันมีปัญหากับแอปต่างๆ เวลาที่เรียกคีย์บอร์ดเสมือนขึ้นมา เพราะมันดันเรียกปุ่มเสมือนขึ้นมาด้วย แล้วเวลาปาดนิ้วทำ Gesture มันก็ดันไปโดนปุ่มแทน (ฮ่วย)

หน้าจอแสดงผลขอ ASUS Zenfone 5z เป็นกระจกแบบ 2.5D โค้ง แต่ส่วนที่โค้ง จะอยู่ตรงบริเวณขอบจอที่เป็นสีดำ ไม่ใช่ส่วนที่แสดงผลแต่อย่างใด ทำให้ไม่เจอปัญหาแตะคีย์บอร์ดแล้วไม่ค่อยติด เหมือนบางรุ่นที่ทำจอโค้งมาแล้วแตะตรงขอบๆ ที่โค้งแล้วพิมพ์ไม่ค่อยติดหรือไม่ถนัด ส่วนตรงหน้าจอที่แหว่งเป็นติ่งตามสมัยนิยม ใครไม่ชอบใจก็ปิดไปได้ครับ มันจะกลายเป็นแถบดำๆ แทน ซึ่งบอกตรงๆ ว่า เป็นติ่งยังดูสวยกว่าแฮะ
ตามสมัยนิยมอีกเช่นกัน การปลดล็อกหน้าจอ สามารถทำได้ทั้งผ่านการสแกนลายนิ้วมือ และสแกนใบหน้า ซึ่งการตั้งค่าทำได้ไม่ยากเลย แต่ผมพบว่าการสแกนใบหน้าที่เขาว่าสแกนปลดล็อกหน้าจอได้ใน 0.3 วินาที มันยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ จากที่ลองใช้ๆ ดูแล้ว มันสู้รุ่นที่สแกนใบหน้าด้วยอินฟราเรดไม่ได้ ผมลองเทียบกับ Vivo X21 ความแตกต่างคือ Vivo X21 เนี่ยตอนยกสมาร์ทโฟนขึ้นมา มันจะสแกนแล้วปลดล็อกหน้าจอเลย ในขณะที่ ASUS Zenfone 5z มันจะเปิดหน้าจอให้ติดก่อน แล้วค่อยเริ่มสแกน ความเร็วในการปลดล็อกเลยช้ากว่าชัดเจนมาก สุดท้ายผมเลยใช้สแกนลายนิ้วมือเร็วกว่าครับ
คงไม่ต้องให้บอกว่ามันสามารถเล่นเกมได้ไหมหรอกนะครับ สเปกเรือธงซะขนาดนี้ จะเล่น ROV หรือ PUBG นี่ไม่ต้องห่วงเลยครับ เล่นได้สบายๆ แถมเจ้านี่ใช้ลำโพงแบบสเตริโอด้วยนะครับ มาสไตล์เดียวกับที่หลายๆ ค่ายเขาทำกัน คือ มีลำโพงด้านล่างตัวเครื่องอันนึง และเอาลำโพงสำหรับสนทนาโทรศัพท์มาเป็นลำโพงอีกข้าง ซึ่งทำได้ดีทีเดียว เสียงดังดีมาก แต่แอบแสบแก้วหูเวลาเปิดเต็มเหนี่ยว มันหาเสียงย่านต่ำไม่ค่อยเจออะ



แบตเตอรี่ 3,300mAh เรียกว่าค่อนข้างอึดทีเดียวครับ และผมว่าเป็นค่ายที่มีระบบจัดการเรื่องแบตเตอรี่ค่อนข้างละเอียดมากกว่ายี่ห้ออื่นๆ เช่น การเปลี่ยนโหมดแบตเตอรี่ และฟีเจอร์ Batter care ที่ให้เราเลือกวิธีการชาร์จแบตเตอรี่ได้สองแบบ คือ AI charging ที่เรียนรู้พฤติกรรมการชาร์จแบตเตอรี่ของเรา แล้วปรับอัตราการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะสมได้ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่เข้านอนและตื่นเป็นเวลามากๆ นอกจากนี้ก็มี Scheduled charging ที่จะทำการปรับอัตราการชาร์จแบตเตอรี่ช่วง 4 ทุ่มถึง 7 โมงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่ควรส่วนใหญ่นอนหลับและตื่นนอน ซึ่งทั้งสองโหมดนี้ช่วยในเรื่องการยืดอายุแบตเตอรี่
การชาร์จแบตเตอรี่ ด้วยเทคโนโลยี BoostMaster ช่วยให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว แต่ก็ต้องใช้ Wall charger ที่แถมมานะครับ มันจะจ่ายไฟได้ 9V 2A หรือ 18 วัตต์
การถ่ายรูปด้วย ASUS Zenfone 5z
ถ้าใครได้อ่านบล็อก เที่ยว Skywalk ตึกคิงพาวเวอร์มหานคร ของผมไปก่อนหน้า คงจะได้เห็นแล้วว่ากล้องของ ASUS Zenfone 5z มันแจ่มแค่ไหน แต่ถ้ายังไม่ได้ไปอ่าน ก็ติดตามรีวิวของผมตรงนี้ได้ครับ

ผมชอบ User Interface กล้องของ ASUS Zenfone 5z ครับ หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันรกไปหน่อย เพราะไอคอนเพียบเลย แต่พวกไอคอนพวกเนี้ย มันคือทางลัดในการเปิดปิดฟีเจอร์ได้อย่างรวดเร็วครับ ไม่ว่าจะเป็นการ เปิด-ปิดแฟลช เปิดปิดโหมดโบเก้ เปลี่ยนสัดส่วนของภาพ เปิดปิด HDR อะไรแบบนี้
ในขณะเดียวกัน AI ก็เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพ โดยสามารถตรวจจับซีนของภาพได้ 16 แบบแล้วทำการปรับการตั้งค่าการถ่ายภาพให้เหมาะสมได้

ทาง ASUS Thailand บอกกับผมว่า กล้องของ Zenfone 5z เนี่ยทำมาเพื่อการถ่ายภาพโดยเฉพาะ ผมก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริงครับ ภาพที่ได้จากกล้อง ASUS Zenfone 5z นี่ ถ้าจัดฉากจัดแสงให้ดีๆ ภาพออกมาสวยเลยแหละ เสียดายว่าตอนไปฮ่องกงสภาพอากาศไม่อำนวยมาก ผมก็เลยไม่ได้ภาพสวยๆ มาฝากซักเท่าไหร่ เพราะต้องเปลี่ยนแผนไปเยอะเลย









เลนส์มุมกว้างของ ASUS Zenfone 5z ทำให้เจ้านี่เหมาะกับการพกไปเที่ยวมากๆ เพราะมันเหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์อย่างมาก ไม่ต้องเดินถอยออกไปไกลก็สามารถเก็บภาพได้ทั้งหมดไว้ในเฟรมเลย
อย่างไรก็ดีผมพบว่า หากสภาพแสงน้อยแล้ว ASUS Zenfone 5z ก็จะคล้ายๆ กับสมาร์ทโฟนค่ายอื่นๆ ที่ถ่ายภาพออกมาแม้จะดูสว่าง แต่ก็แลกมาด้วยรายละเอียดของภาพที่ดรอปลงไปอย่างเห็นได้ชัดครับ

จากที่ลองใช้หลายๆ แบบแล้ว แม้กล้องหน้าจอมีความละเอียดแค่ 8 ล้านพิกเซล แต่คุณภาพของภาพที่ได้ ผมว่าโอเคมากทีเดียวครับ แต่ไอ้ที่ผมบอกไว้ตอนแรกว่าอยากได้เซ็นเซอร์แบบ 24-25 ล้านพิกเซลเหมือน OPPO หรือ Vivo ผมก็ยังอยากได้แบบนั้นอยู่ครับ
ที่เหนือกว่าคือ SelfieMaster รองรับการทำ Live broadcast ผ่าน Facebook หรือ YouTube โดยวิดีโอจะเป็นโหมดบิวตี้เลย SelfieMaster ให้ถ่ายภาพเซลฟี่ในโหมดบิวตี้โดยเฉพาะ
แอป Selfie Master ที่มากับตัวเครื่อง เป็นแอบที่เอาไว้สำหรับเซลฟี่ตัวเองทั้งแบบภาพนิ่งและวิดีโอ โดยเลือกโหมดบิวตี้ได้ 10 ระดับ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนนิยมเซลฟี่ แต่ที่มากกว่านั้นคือ มันมีโหมด BeautyLive ที่ให้เราสามารถไลฟ์วิดีโอสดๆ ผ่าน Facebook หรือ YouTube โดยที่วิดีโอที่ถ่ายไป จะเป็นโหมดบิวตี้ หน้าเนียนกิ๊งให้เลย
บทสรุปการรีวิว ASUS Zenfone 5z
ASUS Zenfone 5z แม้ว่าจะเขียนว่าราคาเต็ม 15,990 บาทก็เหอะ แต่ถ้าเราหาบนออนไลน์ เราก็สามารถหาเครื่องศูนย์ในราคาที่ถูกกว่านี้ได้อีกราวๆ 1,000 บาท ตัวนี้ถือเป็นสเปกเรือธงที่ราคาไม่แพงมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการเครื่องสเปกแรง ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีๆ แต่ไม่อยากจ่ายแพงเกิน 20,000 บาท
กล้องเลนส์คู่แบบมีเลนส์มุมกว้าง ช่วยให้ ASUS Zenfone 5z เหมาะสำหรับการพกพาไปเที่ยวอย่างมาก นี่พูดในฐานะคนที่ชอบเลนส์มุมกว้างบนสมาร์ทโฟน และใช้ทั้ง LG G6 และลอง LG V30+ มาแล้ว ถ้าเกิดว่าอยากได้สมาร์ทโฟนสเปกดี พกเที่ยวก็เวิร์ก ราคาไม่แพง ASUS Zenfone 5z นี่คือตัวเลือกที่ดีทีเดียว