ผมไม่ได้แวะมา Ocean Park หลายปีดีดักมาก เพราะไปเที่ยวที่อื่นมากกว่า เช่น ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์, ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ (ที่สิงคโปร์และโอซาก้า) อะไรแบบนี้ ฉะนั้นมาที่ฮ่องกงคราวนี้ก็เลยถือโอกาสแวะเที่ยว Ocean Park ซะหน่อยในรอบหลายปีครับ และก็เจอเครื่องเล่นใหม่คือ VR Coaster ซึ่งถือเป็น VR Roller coaster แห่งแรกในประเทศฮ่องกงเลย ประสบการณ์ในการเล่นจะเป็นยังไงบ้างนั้น ไปติดตามกันครับ

Mine Train presented by Samsung Gear VR นี้ เปิดตัวไปตอนช่วงคริสมาสต์ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2560) เป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์นั่นแหละครับ หลักการก็จะคล้ายๆ กับพวกเครื่องเล่นจำพวก ภาพยนตร์ 4D คือ เพิ่มเรื่องราวให้กับเครื่องเล่น และสร้างความรู้สึกว่าผู้เล่นนั้นเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการนั้น เพียงแต่ความแตกต่างคือ พวกภาพยนตร์ 4D มันจะใช้ลูกเล่นต่างๆ เข้ามาประกอบกับภาพที่ฉาย เพื่อหลอกให้สมองของผู้เล่นคิดว่ากำลังโลดแล่นอยู่ในภาพยนตร์นั้น แต่ VR Coaster นี่จะใช้รถไฟเหาะตีลังกาจริงๆ ไปเลย แล้วทำภาพ VR ให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของรถไฟเหาะตีลังกาแทน

ตัวเครื่องเล่นนั้นอยู่ฝั่ง Summit ของ Ocean Park ตรงโซน Adventure Land ครับ วันหยุดนี่คนเพียบเลยทีเดียว ตอนผมไปคือราวๆ บ่ายสามโมงของวันอาทิตย์ ผมรอคิวอยู่ราวๆ 50 นาทีกว่าจะได้ขึ้นเล่นครับ

ตอนระหว่างรอคิวนั้น เมื่อไปถึงจุดที่เราจะเป็น “คิวถัดไป” เจ้าหน้าที่ก็จะเอาแผ่นป้ายกลมๆ มาแจกครับ ถ้าใครอยากจะสวมแว่น VR ก็รับแผ่นป้ายนี้ไป ใครไม่อยากจะสวมแว่น VR ก็ไม่ต้องเอาแผ่นป้ายนี้ แผ่นป้ายนี้ทำสองหน้าที่ อย่างแรกคือมันมีข้อควรปฏิบัติ และข้อกำหนดด้านความปลอดภัย สำหรับผู้ที่จะเล่น VR Coaster ครับ อ่านทำความเข้าใจก่อน และอย่างที่สองคือ เจ้าหน้าที่จะได้รู้ว่าใครจะสวมแว่น VR บ้าง
อ้อ! ผู้ที่มีส่วนสูงต่ำกว่า 122 เซ็นติเมตรอดเล่นนะจ๊ะ

ก่อนจะขึ้นเครื่องเล่น ก็ต้องเอาสิ่งของติดตัวต่างๆ ที่จะตกหล่นได้ไปเก็บไว้ในกล่องที่อยู่อีกฟาก แว่นตานี่ก็ต้องถอดเก็บนะครับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเดินเอาแว่น VR มาแจก และช่วยเราใส่ (ตอนแรกดูวิดีโอข้อปฏิบัติ นึกว่าเราจะต้องใส่เอง แต่ทาง Ocean Park คงตัดปัญหาเรื่องผู้เล่นทำไม่ถูกต้อง เลยให้เจ้าหน้าที่ช่วยทั้งหมด จบเรื่อง) และเพราะต้องใส่แว่น VR นี่แหละ กว่าจะเริ่มเล่นได้ก็กินเวลาไปอีกพักนึง
ระยะเวลาทั้งหมดในการเล่นเครื่องเล่นนี้ เริ่มตั้งแต่รถไฟเริ่มออก จนถึงรถไฟกลับมาจอดสนิท ผมจับเวลาแล้วจะอยู่ที่ราวๆ 2 นาที 45 วินาที แต่ช่วงที่เราจะวี๊ดว้ายกระตู้วู้ได้อยู่ที่ราวๆ 1 นาที 45 วินาทีเท่านั้นแหละ เป็นเครื่องเล่นที่สั้น ซึ่งเป็นปกติของเครื่องเล่นต่างๆ ในสวนสนุกอยู่แล้วเหอะ

ผมเคยเล่น Mine Train มา 2-3 หนแล้วก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่รถไฟเหาะตีลังกาที่มีช็อตตีลังกาแต่อย่างใด มีแค่จังหวะดิ่งลง แล้วหมุนๆ อย่างเร็วก็เท่านั้นเองครับ ใครยังไม่เคยเล่น ไปลองเล่นแบบปกติดูก่อนก็ได้ สยิวประมาณนึง
แต่ถ้าใส่แว่น VR มันจะจำลองว่าเราไปเป็นคนขับหุ่นยนต์ แล้วบินไปตามป่าครับ จากนั้นก็จะเกิดเหตุภูเขาไฟระเบิดขึ้น แล้วเราก็เหมือนจะโดนหุ่นยนต์อะไรซักอย่างไล่ตาม ซึ่งเหตุการณ์จำลองเหล่านี้ มันจะมีการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องไปกับการเคลื่อนที่ของรถไฟเหาะตีลังกานั่นเอง

การนำเอาเทคโนโลยี VR มาเสริมกับรถไฟเหาะตีลังกา ผมว่าเป็นแนวคิดที่ดี เพราะมันช่วยสร้าง “เรื่องราว” ให้กับเครื่องเล่นได้ดีทีเดียว ทว่า Mine Train presented by Samsung Gear VR นี่มีข้อติอยู่สองจุดใหญ่ๆ ครับ คือ
- ด้วยข้อจำกัดของเครื่องเล่น ที่เป็นการอัพเกรดจาก Mine Train เดิม ทำให้มันขาดการ Build up เรื่องราว ให้ผู้เล่นได้เข้าในถึงสถานการณ์ก่อนที่จะเล่น ซึ่งหากคุณเคยไปเล่นพวกภาพยนตร์ 4D ที่ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ คุณน่าจะจำได้ว่าก่อนที่จะไปถึงเครื่องเล่น มันจะมีการเปิดคลิปเล่าให้เราฟังว่า เรากำลังอยู่ในสถานการณ์อะไร แล้วเราจะต้องไปทำอะไรในเนื้อเรื่อง … ตรงนี้ Mine Train presented by Samsung Gear VR มันขาดไป ทำให้ตอนผมไปเล่นแล้วก็งงๆ ยิ่งตอนจบมีการบอกว่ามีการเก็บคะแนนอีก ผมยิ่งงงเลยว่า เอ๊ะ แล้วผมต้องทำอะไรเพื่อทำคะแนนไหม
- ตัวฮาร์ดแวร์ที่เอามาใช้กับแว่น VR ไม่รู้ทำไม เวลามันฉายภาพ VR แล้ว มันกระตุกครับ คือ กำลังดูเพลินๆ เลย ภาพกระตุก ทำให้อรรถรสในการเล่นก็สะดุดตาม เสียอารมณ์
สรุปแล้ว เล่น Mine Train presented by Samsung Gear VR นี่ดีไหม?
ผมขอชม Ocean Park และ Samsung ในความพยายามที่จะผนวกเทคโนโลยีเข้ามาในเครื่องเล่นเดิมๆ เพื่ออัพเกรดมัน ให้มีประสบการณ์ในการเล่นที่แปลกใหม่ขึ้น มันก็ว้าวดี แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ผมอยากจะรอคิว 50 นาทีเพื่อจะเล่นแค่ 2 นาทีกว่าๆ อ่ะครับ ยิ่งตอนรอ อากาศเย็น ลมเย็น ปวดฉี่ชิบเป๋ง จะขอเดินออกมาฉี่ก่อนก็ไม่ได้ด้วย แต่ถ้าใครมา Ocean Park ช่วงวันธรรมดา ตอน Low season คิวไม่ยาวมาก อยากลองดูก็ได้ครับ ใครไม่เคยเล่น Mine Train มาก่อน ให้ลองแบบไม่สวมแว่น แล้ววนไปต่อคิว ไปลองแบบสวมแว่นดู มันจะได้คนละอารมณ์กันจริงๆ