ในขณะที่ตลาดสมาร์ทโฟนระดับล่างนี่สู้กันดุเดือดมาก แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่อิ่มตัว และมีผู้ท้าชิงรายใหม่ๆ เข้ามาอยู่ได้เรื่อยๆ เนอะ ล่าสุดนี่ M-HORSE เป็นแบรนด์ใหม่ที่เข้ามาในตลาดบ้านเรา โดยมีเป้าหมายคือตลาดระดับล่าง โดยเน้นสมาร์ทโฟนสเปกจีน ที่ประสิทธิภาพดีประมาณนึง ในราคาที่ไม่โหดร้ายมาก โดยตัวที่ผมได้มารีวิวคือ M-HORSE PURE 3 ในราคา 4,290 บาท
แพ็กเกจของ M-HORSE PURE 3 นี่เป็นแบบเรียบง่าย คิดว่าเป็นสไตล์ของ OEM ในปัจจุบัน คือ กล่องสีขาว เรียบ แล้วก็จะสกรีนเป็นยี่ห้ออะไร รุ่นไหน ก็ทำได้ไม่ยากนั่นแหละ ภายในกล่องก็จะมีตัวเครื่อง PURE 3, ตัวจิ้มซิม, Wall charger, สาย USB Type-C, ตัวแปลงหัว USB Type-C เป็นหัวออดิโอ 3.5 มม. แล้วก็ หูฟังแบบ 3.5 มม. กับเคสแล้วก็ฟิล์มกันรอยที่แถมมาให้
ตัวเคสเป็นแบบยาง เข้ารูป ให้มาก็โอเคครับ แต่ไม่ได้ให้ผมก็คิดว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะตัวเครื่อง PURE 3 ฝาหลังเป็นพลาสติกอยู่แล้ว ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาพะวงกับรอยขนแมวอะไร แต่ฟิล์มกันรอยที่ให้มาด้วยเนี่ย แอบคิดว่าควรจะติดฟิล์มมาให้เลยจะดีกว่า เพราะไปคาดหวังว่าผู้ซื้อทั่วไปจะติดเองได้แบบไม่มีปัญหาเนี่ย คิดผิดนะครับ และถ้าเกิดติดพลาด เสียขึ้นมา มันจะหาร้านติดฟิล์มลำบากแล้ว
ตัวเครื่อง M-HORSE PURE 3 นี่เป็นหน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว แบบ IPS LCD ตามสมัยนิยม มีความละเอียด 1,440×720 พิกเซล มีไฟ LED บอกสถานะ และมาพร้อมกับกล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กับ 8 ล้านพิกเซล และมี LED แฟลชมาให้ด้วย
ส่วนด้านหลัง ก็เป็นกล้องดิจิทัลคู่ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และ 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟ LED แฟลช 2 ดวง กับตัวสแกนลายนิ้วมือ และรอบๆ ตัวเครื่องก็จะมีถาดใส่ซิมแบบที่ต้องจิ้มออกมาอยู่ตรงด้านซ้ายมือ ด้านขวามือก็เป็นปุ่ม Volume กับ Power และด้านล่างก็เป็นรูไมโครโฟน ลำโพง และพอร์ต USB Type-C
ด้านสเปกของ M-HORSE PURE 3 นั้นให้มาก็สมค่าตัวดี คือ Mediatek Helio P23 (MTK6763) Octa Core ความเร็ว 2.0 GHz และแรม 4GB กับความจุ 64GB ซึ่งมีความเร็วพอประมาณ ระดับ MicroSD card ความเร็วสูง คือ อ่าน 150MB/s และเขียน 140MB/s
ประสบการณ์ในการใช้งาน M-HORSE PURE 3
ด้วยสนนราคา 4,290 บาท และสเปกระดับเริ่มต้น ในฐานะที่เป็นคนใช้สมาร์ทโฟนรุ่นกลางๆ ของระบบปฏิบัติการ Android อย่าง Vivo X21 และอดีตเรือธง iOS ปีก่อนอย่าง iPhone 8 Plus ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากเรื่องความเร็ว แต่ด้วยความที่เจ้านี่ใช้ Android ที่แทบจะเป็น ASOP และไม่ได้ยัดเยียดแอปแปลกๆ มาให้ ก็รู้สึกได้ว่าแม้จะไม่ได้แตะแล้วเร็วปรี๊ดปร๊าดแบบสมาร์ทโฟนราคาหลักหมื่นขึ้นไป แต่ก็ไม่ได้หน่วงจนน่าหงุดหงิด ตรงนี้ส่วนนึงต้องขอชมว่ายังใจดีให้ NAND Flash ความเร็วที่ดีประมาณนึงมา ไม่อย่างนั้นประสบการณ์ในการใช้งานจะย่ำแย่เอามากๆ

อย่างไรก็ดี ข้อติของ M-HORSE PURE 3 คือการเลือกใช้ Android 7.1 แทนที่จะเป็น Android 8.0 หรือ 8.1 ทั้งๆ ที่เป็นสมาร์ทโฟนที่วางจำหน่ายในปี 2561 ซึ่งมีการเปิดตัว Android 9.0 (Pie) แล้วด้วยซ้ำ ถามว่าจริงๆ แล้วมันมีปัญหาอะไรไหม? คำตอบคือไม่มาก แต่ฟีเจอร์ใหม่ๆ บน Android 8 (Oreo) มันช่วยให้ใช้งานสะดวกขึ้น เช่น การปรับ User Interface ในส่วนของ Settings ซะใหม่ หรือ ฟีเจอร์ Picture-in-Picture ที่ช่วยให้เปิดวิดีโอไปพร้อมๆ กับการใช้งานแอปอื่นได้ด้วย แต่ถ้ามองอีกแง่นึง ด้วยสเปกระดับแรกเริ่มแบบนี้ ฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านั้นอาจจะทำให้เครื่องอืดกว่าเดิมก็ได้ (มั้ง)
ที่น่าเป็นห่วงอีกอย่างน่าจะเป็นเรื่องของ Android security patch level มากกว่า ที่เป็นของเดือนเมษายน 2561 ซึ่งไม่ได้ถือว่าใหม่มาก ซึ่งก็เป็นไปตามสไตล์ของ OEM ทั่วไป
ผมว่าเดี๋ยวนี้การสแกนลายนิ้วมือกลายเป็นมาตรฐานของสมาร์ทโฟนไปแล้วและครับ ฉะนั้น ในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานแล้ว ตัวสแกนลายนิ้วมือของ M-HORSE PURE 3 นี่ก็ถือว่าทำงานได้ดีอยู่ ตั้งค่าไม่ยาก และเป็นการสแกนแบบ 360 องศา คือ ไม่ว่าเราจะสแกนแบบกลัวหัวกลับหางยังไง ก็ยังสแกนได้อยู่

ผมลองเล่นกับโซเชียลมีเดียสองค่ายหลักคือ Facebook กับ Twitter ที่สองค่ายนี้คงรู้ตัวว่าการใช้แอปตัวเองมันกินสเปกเครื่องมาก เลยทำเวอร์ชัน Lite เอามาไว้ให้เล่น สำหรับพวกสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่สเปกกระจอกๆ แต่ผมพบว่า PURE 3 นี่ไม่ได้เล่นแล้วหน่วงมากมายอะไรครับ เล่นแอปเวอร์ชันปกติได้สบายๆ อยู่ครับ

หน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว อาจจะดูใหญ่ แต่จริงๆ แล้วอัตราส่วนการแสดงผลแบบ 18:9 มันทำให้หน้าจอเน้นไปที่ความยาวมากขึ้น ส่งผลให้การวัดขนาดหน้าจอ ที่วัดตามเส้นทแยงมุม มันเลยดูมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย แต่จริงๆ แล้ว ขนาดหน้าจอของมันก็แค่เทียบได้กับพวก iPhone 6-7-8 ตระกูล Plus ครับ แต่อาจจะดูแคบลงมาหน่อยครับ
หน้าจอแสดงผลสัดส่วน 18:9 มันเวิร์กเวลาใช้งานในฐานะสมาร์ทโฟนกับแอปต่างๆ เพราะได้พื้นที่เอาไว้สำหรับวางปุ่มของระบบปฏิบัติการ Android แต่พอดูพวกวิดีโอที่ถ่ายทำด้วยสัดส่วน 16:9 แล้ว มันก็จะมีแถบดำขึ้นซ้ายขวาเป็นปกตินะฮะ
ในส่วนของเสียงนั้น ลำโพงของตัวเครื่อง มีความดังแค่ประมาณนึงครับ เอาไว้ฟังคลิปวิดีโอได้ในสถานที่ที่ไม่ได้มีเสียงดังมากเท่าไหร่ แต่ถ้าจะเอาไปเปิดฟังกันในตลาดอะไรแบบนี้ หาหูฟังไปเสียบ หรือต่อลำโพงเพิ่มน่าจะดีกว่า

ถามว่าเอามาเล่นเกมได้ไหม? เป็นคำถามที่น่าสนใจ เพราะว่าเจ้านี่ใช้หน่วยประมวลผลและ GPU ตัวเดียวกับ OPPO F5 เพียงแต่ว่าความเร็วแค่ 2.0GHz ไม่ใช่ 2.5GHz ก็เท่านั้นเอง แต่ในส่วนของ GPU และแรมนี่คือพอๆ กัน ก็เลยดาวน์โหลด ROV มาลองเล่นซะหน่อย
ก็เท่าที่ลองเล่นดู ก็ต้องบอกว่าพอเล่นได้ครับ แต่ไม่เปิดแบบ HD และปรับคุณภาพของกราฟิกต่างๆ ได้แค่ระดับ Medium เท่านั้น โดยยังได้เฟรมเรทอยู่ราวๆ 20-30fps ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นปะทะกันโหดแค่ไหนครับ (นี่คือเปิดโหมดเฟรมเรทสูงแล้ว)
กล้องดิจิทัลของ M-HORSE PURE 3
ออกตัวก่อนเลยว่า “กล้องดิจิทัลคู่” ของ M-HORSE PURE 3 นี่เป็นแค่ “เครื่องประดับ” แบบที่เราได้พบได้เห็นบนพวกสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่เป็น OEM จากจีนตัวอื่นๆ ครับ คือ ตัวฮาร์ดแวร์มันมีอยู่จริง แต่ตัวซอฟต์แวร์มันไม่ได้ไปใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์นั้นๆ เลย
User Interface กล้องจะเป็นคล้ายๆ กับของระบบปฏิบัติการ iOS ครับ แต่อย่างที่บอกว่ากล้องคู่ไม่ได้มีประโยชน์อะไร โหมด “เบลอ” ของกล้องก็เลยเป็นแค่การใช้ซอฟต์แวร์ทำภาพรอบๆ จุดกึ่งกลางของเฟรมให้กลายเป็นภาพเบลอ แล้วเฉพาะตรงจุดกึ่งกลางเท่านั้นที่ชัด ก็เท่านั้นเอง
ในส่วนของคุณภาพของภาพถ่ายนั้น ในด้านความละเอียดของภาพ 13 ล้านพิกเซลนี่ผมไม่มีอะไรจะค้าน แต่มันมีข้อจำกัดเรื่องนึงเกี่ยวกับตัวซอฟต์แวร์กล้อง (หรืออาจจะรวมถึงตัวฮาร์ดแวร์ด้วย) นั่นคือ ความสามารถในการจับโฟกัสของภาพ ซึ่งทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ผมสังเกตว่า แม้จะกำหนดจุดโฟกัสเอาไว้ดีๆ แล้ว แต่พอซูมภาพดู ก็ยังรู้สึกได้ว่า โฟกัสของภาพยังไม่คมมากนัก
พิจารณาจากสีของภาพ ก็รู้สึกได้ว่าสีสันแอบจืดพอสมควรเลยครับ ดูจากภาพตัวอย่างด้านบนได้ ฉะนั้นอาจต้องไปปรับแต่งเพิ่มเติมเอาเองนะครับ ซึ่งตัวแอป Photo albumn เนี่ย มันมีฟังก์ชันในการปรับแต่งภาพมาให้นิดหน่อยอยู่แล้ว ซึ่งก็ถือว่าโอเคอยู่

กล้องหน้า แม้จะความละเอียดแค่ 8 ล้านพิกเซล แต่ก็เป็นเลนส์มุมกว้าง และไม่มีปัญหาเรื่องการปรับระยะโฟกัส (คงเพราะเป็นเลนส์มุมกว้าง เลยเป็นแบบ Fixed focus ละมั้ง) แต่ความละเอียดของภาพออกมาดี แม้สีสันจะจืดตามสไตล์ แต่อันนี้มันปรับได้ด้วยแอป
บทสรุปการรีวิว M-HORSE PURE 3
M-HORSE PURE 3 ไม่ใช่สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ดีที่สุด (แหงดิ ราคาแค่ระดับนี้) แต่สนนราคา 4,290 บาท ที่ให้แรมมา 4GB และความจุ 64GB พร้อมกับหน่วยประมวลผลระดับเกือบจะกลางๆ อย่าง MediaTek Helio P23 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนงบน้อยแต่อยากจะได้สมาร์ทโฟนมาใช้ หรือลูกหลานที่อยากจะหาสมาร์ทโฟนให้คุณพ่อคุณแม่ คุณลุงคุณป้า ไปไปซักเครื่องครับ
อาจจะเห็นว่าผมติในหลายๆ จุด แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่ถึงกับรับไม่ได้ เมื่อพิจารณาจากสนนราคาค่าตัวครับ