หูฟัง Plantronics อาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงในแวดวงนักฟังเพลงมากนัก แต่ว่าสำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว ผมอยากบอกว่าหูฟังของ Plantronics เป็นหูฟังคุณภาพเสียงดีระดับพรีเมียม มีลูกเล่นพอสมควร ในราคาที่จับต้องได้ไม่ยาก อย่างเช่น Plantronics BackBeat Go 810 ที่ผมจะรีวิวให้อ่านนี้ ก็เป็นหูฟังเสียงดีพรีเมียม ที่มีน้ำหนักเบามาก และใช้วัสดุที่ทนทาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เดินทางบ่อยๆ จะพกพาไปไหนมาไหน ชีวิตจะได้ไม่ขาดเสียงเพลง ไม่ขาดความบันเทิง
แกะกล่อง Plantronics BackBeat Go 810
ตัวแพ็กเกจของ Plantronics BackBeat Go 810 นี่เรียบง่ายครับภ ภายในกล่องก็ประกอบไปด้วยตัวหูฟังที่ใส่มาในซองเก็บเรียบร้อย แล้วก็มีสาย Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และสายออดิโอสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เล่นเพลงต่างๆ ที่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้ด้วย

ดีไซน์ของ BackBeat Go 810 นั้นเป็นแบบครอบหู ที่ออกแบบตัวหูฟังให้มีลักษณะเป็นวงรี มีขนาดใหญ่พอสำหรับหูของคนทั่วไปเลย จึงทำให้สวมใส่สบายมาก ตัวโฟมที่ใช้ทำหูฟังเป็นเมมโมรีโฟม นุ่มสบายดีมาก สวมใส่เพลินๆ หลับเอาง่ายๆ เลยเหอะ
ที่เปลี่ยนไปจากดีไซน์แบบเดิมๆ ของ Plantronics ก็คือ ตัวก้านหูฟังที่เปลียนวัสดุที่ใช้บุส่วนด้านใน จากเดิมที่ทำเป็นหนังเทียม (หนัง PU) ที่พอใช้ไปนานๆ แล้วมันหลุดลอกออกมาได้ เพราะตรงเนี้ยมันคืออะไรที่หาอะไหล่มาเปลี่ยนไม่ได้ พอหลุดลอกออกมาแล้วมันดูไม่สวยอะ ของ BackBeat Go 810 นี่เปลี่ยนมาเป็นวัสดุจำพวกผ้าหุ้มเมมโมรีโฟมนุ่มๆ แทน สวมใส่สบาย และคงทนกว่า
ก้านหูฟัง ในส่วนที่ใช้ปรับระยะให้เหมาะกับหัวของผู้ใส่ยังคงเป็นอลูมิเนียมอยู่ ซึ่งดีงามมาก เพราะมันแข็งแรงกว่าพลาสติกชัวร์ๆ แต่ตัวหูฟังเองแม้วัสดุจะเป็นพลาสติก แต่ก็มีความยืดหยุ่นทนทานดีนะครับ ลองจับมาบิดๆ งอๆ กางๆ แบบนี้ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร (แต่ในการใช้งานจริงอย่าไปลองให้เยอะล่ะ ยืดหยุ่นทนทาน แต่ไม่ใช่อมตะไร้เทียมทานนะครับ)
ตัวหูฟังบิดพับได้ 90 องศา เพื่อให้สะดวกในการเก็บใส่ซองเก็บ แต่น่าเสียดายที่จนแล้วจนรอด Plantronics ก็ยังไม่ออกแบบให้หูฟังพับเก็บให้มีขนาดเล็กลง จะได้ไม่เกะกะพื้นที่มากเวลาใส่กระเป๋า
ทดลองฟังเสียง Plantronics BackBeat Go 810
หยิบเอามาลองทั้งดูหนังและฟังเพลงเลยครับ พบว่า Plantronics BackBeat Go 810 นี่ให้คุณภาพเสียงที่ดีทีเดียว มีความสมดุลทั้งเสียงย่านสูง กลาง และต่ำ เสียงสูงชัดเจนแต่ไม่แหลมจนแสบแก้วหูแม้จะเปิดเสียงจนดังสุดแล้วก็ตาม ในขณะที่เสียงย่านต่ำหรือเสียงเบสเนี่ยก็ตึบดี แต่ก็ไม่ได้เน้นไปที่ย่านต่ำจนรู้สึกว่ามวลเบสกระแทกหูหนักหน่วงเกินไป
ด้วยความที่เป็นหูฟังแบบครอบหู เวลาสวมใส่เพื่อดูหนังหรือฟังเพลงแล้ว บอกได้เลยว่าตัดเสียงภายนอกออกได้ค่อนข้างดีทีเดียว และนอกจากนี้ BackBeat Go 810 ยังมาพร้อมกับ Active Noise Cancellation (ANC) สองระดับ ให้เลือกปรับได้ตามความเหมาะสมของสภาพเสียงรบกวนภายนอก ซึ่งบอกเลยว่าได้ผลดีมากทีเดียว นี่เอามาลองใช้ตอนอยู่บนเครื่องบินเดินทางจากกรุงเทพไปโดฮา ประเทศกาตาร์ ถ้าไม่เปิด ANC ละก็ เสียงหึ่งของเครื่องมันจะดังเข้ามารบกวนอย่างมากเลยครับ แต่พอเปิดปุ๊บเสียงหึ่งย่านต่ำๆ นี่เงียบเลย เหลือแต่เสียงแอร์เครื่องบินดังแผ่วๆ ซึ่งไม่ได้รู้สึกรบกวนหูเท่าไหร่ … ถ้าไม่เอามาดูหนังฟังเพลง ก็เอามาใส่เพื่อนอนได้ครับ เหมาะมากสำหรับคนที่บินไฟล์ทไกลๆ (Long haul) แบบที่นั่งชั้นประหยัดมาก (พวกชั้นธุรกิจและเฟิร์สคลาสมันจะได้หูฟังแบบที่มี ANC อยู่แล้ว) อย่างไรก็ดี ความสามารถในการตัดเสียงรบกวนของมันยังไม่เทียบเท่าหูฟังที่มี ANC ที่ใช้กันบนชั้นธุรกิจของหลายๆ สายการบินครับ แต่ก็อย่างที่บอก มันเหมาะสำหรับคนที่บินชั้นประหยัดมากกว่าอะนะ
ลูกเล่นหลายๆ อย่างของ Plantronics BackBeat Go 810 นี่ มันต้องปรับตั้งกันผ่านแอป BackBeat (iOS/Android) ครับ ไม่สามารถทำได้ผ่านตัวหูฟังโดยตรง ซึ่งจะผิดกับรุ่นโปรอย่าง BackBeat Pro หรือ BackBeat Pro 2 ที่อย่างน้อยๆ มันก็มีปุ่ม ANC ให้เปิดปิดการใช้งานเลย ซึ่งสะดวกกว่า ตรงนี้ผมมองว่าเป็นจุดให้ตินิดนึงของ Plantronics BackBeat Go 810 นี่

ในส่วนของการสนทนาโทรศัพท์ เจ้านี่มีไมโครโฟนสองตัวอยู่ที่หูฟังคนละข้าง ทำให้รับเสียงพูดคุยของเราได้ดี และเมื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ HD Voice ก็จะทำให้เราสนทนาได้ด้วยคุณภาพเสียงที่ชัดเจนขึ้น แต่ว่าก็ต้องดูว่าสมาร์ทโฟนที่เราใช้นั้น มันรองรับ HD Voice หรือเปล่าด้วยนะ
ว่ากันเรื่องการใช้งานหูฟัง Plantronics BackBeat Go 810
ดีไซน์ของหูฟังช่วยให้เราใช้งานได้ไม่ยุ่งยาก ปุ่มควบคุมการเล่นเพลงอยู่ตรงหูฟังด้านซ้าย ปุ่มปรับระดับเสียงก็อยู่ตรงหูฟังด้านซ้ายแต่อยู่แถวๆ ด้านหลังใบหู ซึ่งแตกต่างจากดีไซน์ของ BackBeat Pro 2 ที่ผมชอบมากกว่า (มันใช้ Jog dial ในการปรับระดับเสียง) แต่ในแง่ของการใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยากกว่ากันครับ

ด้านขวาก็มีสวิตช์เปิดปิดซึ่งก็ทำหน้าที่สำหรับเปิดโหมดจับคู่ (Pairing) ได้ในตัว มีปุ่มวางและรับสายโทรศัพท์ และมีรูไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์อยู่ที่ทั้งสองข้างของหูฟังเลย ทำให้เรื่องการสนทนาทำได้อย่างสบายๆ ครับ อย่างไรก็ดี มันไม่ใช่หูฟังที่เราจะเอามาใช้แทน Bluetooth headset หรอกนะ (ในส่วนของ Bluetooth headset ผมแนะนำ Plantronics Voyager 5200 ครับ แจ่มแมวมาก)
อย่างที่บอกในตอนต้น อยากจะปรับตั้งค่าอะไรก็ต้องทำผ่านแอป ซึ่งให้เราทำอะไรต่อมิอะไรได้หลายอย่าง เช่น
- เปิดปิด Active Noise Cancellation และสามารถเลือกได้ 2 ระดับ
- ปรับ Equalizer (EQ) ซึ่งเลือกได้สองแบบคือ Bright ที่เหมาะสำหรับเอาไว้เน้นฟังเพลงเสียงใสๆ หรือดูพวกคลิปวิดีโอที่ต้องการฟังเสียงพูดชัดๆ กับ Balanced ที่เลือกจะรักษาสมดุลเสียงทุกย่าน เหมาะสำหรับการฟังเพลงส่วนใหญ่
- เปลี่ยนชื่อหูฟัง เวลาจับคู่จะได้หาหูฟังของเราง่ายๆ โดยเฉพาะเวลาที่ดันมีอุปกรณ์อื่นอยู่เยอะๆ
- อัพเดตเฟิร์มแวร์ของหูฟัง ก็ทำผ่านแอป
- เลือกดูได้ว่าตอนนี้หูฟังกำลังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อะไรอยู่บ้าง
- เปลี่ยนภาษาที่ใช้บนหูฟัง เพราะ Plantronics BackBeat Go 810 นี่ใช้การพูดเพื่อบอกสถานะต่างๆ ของหูฟังให้เราฟัง ซึ่งเดี๋ยวนี้รองรับภาษาไทยแล้วด้วย
- เปิดปิด HD Voice ในโหมดสนทนาโทรศัพท์
แบตเตอรี่ ตามสเปกก็บอกว่าใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้ 22 ชั่วโมง ผมยังไม่มีโอกาสได้ลองใช้งานถึงขีดสุดแบบนั้นหรอกนะครับ เพราะเลือกที่จะชาร์จแบตเตอรี่เมื่อมันบอกว่าแบตเตอรี่เหลือปานกลางแล้วล่ะ แต่จากที่ลองใช้งาน แบบไม่ต่อเนื่อง ฟังวันละ 3-4 ชั่วโมง 3-4 วันก็มาชาร์จทีโดยประมาณ สบายๆ ผมว่าเอามาใช้งานแบบ ตั้งกะเช้ายันเย็น ฟังทุกจังหวะที่มีโอกาส ก็ยังมีแบตเตอรี่เหลือมากพอที่จะอยู่รอดทั้งวันค่อยมาชาร์จแบตเตอรี่ได้ละครับ
บทสรุปการรีวิว Plantronics BackBeat Go 810
Plantronics BackBeat Go 810 เป็นหูฟังที่มีฟีเจอร์หลากหลาย คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม ในราคาที่ไม่เกินเอื้อม ซึ่งถ้าถามผม ผมว่ามันเหมาะสำหรับคนที่เดินทางบ่อยๆ โดยเฉพาะเดินทางบนเครื่อง ต้องบินไกลๆ ต้องโดยสารชั้นประหยัดบ่อยๆ อะไรแบบนี้ ฟีเจอร์ Active Noise Cancellation มันช่วยได้เยอะมากเลยครับ หูฟังที่น้ำหนักเบา โฟมตรงหูฟังนุ่มมาก สวมฟังเพลงแล้วนอนหลับสบายไปเลยเหอะ ขอบอก