Plantronics BackBeat FIT นี่นับเป็นหูฟังสายคนออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมรุ่นนึงเลยครับ จุดเด่นของมันคือ คุณภาพเสียงที่ดี ในขณะที่ตัวหูฟังไม่ตัดเสียงภายนอกไปจนสิ้นเชิง ทำให้เหมาะกับการใส่ฟังเพลงระหว่างออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือขี่จักรยานนอกสถานที่ และล่าสุด Platronics ก็ออกรุ่น BackBeat FIT 3100 ที่เป็น True wireless หรือไร้สายที่แท้ทรูออกมาแล้วในสนนราคาแบบมิตรภาพ 6,290 บาท
ได้ของมาแล้ว ก็ต้องลองแกะกล่องดูหน่อยว่ามีอะไรในนี้บ้างครับ เปิดกล่องมาก็เห็นตัวเคส (Charge case) กับตัวหูฟัง BackBeat FIT 3100 True Wireless Sport ซึ่งถูกวางมาไว้ในตัวเคสเรียบร้อยเลย นอกจากนี้ในกล่องก็ยังมีคู่มือภาษาไทยแบบ Quick guide มาให้ แล้วก็ใบรับประกัน

ที่แตกต่างจากหูฟังยี่ห้ออื่นๆ ที่เป็นแบบ In-ear (และในขณะเดียวกันก็เป็นจุดเด่นของรุ่น BackBeat FIT) ก็คือ มันไม่ได้มียางหูฟังมาให้หลายๆ ขนาดครับ เพราะเจ้านี่ถูกออกแบบมาให้ตัวหูฟังมันมีลักษณะเป็นเหมือนท่อที่นำเสียงเข้าไปในรูหู เลยไม่จำเป็นต้องให้ยางมาให้หลายๆ ขนาดเพื่อให้เหมาะกับรูหูเลย

ตัวหูฟังกับเคสเนี่ย ถูกชาร์จแบตเตอรี่มาให้จนเต็มครับ เรียกว่าซื้อมาปุ๊บพร้อมใช้งาน ไม่ต้องมาชาร์จแบตเตอรี่ให้เสียเวลา แต่ว่ามันจะอยู่ในโหมด Deep sleep (หลับลึก) เพื่อประหยัดพลังงาน ฉะนั้นก่อนที่จะใช้งาน ก็จะต้องเปิดใช้งานก่อน ซึ่งไม่ยาก แค่กดปุ่ม Power ค้างไว้ 2 วินาทีเท่านั้นแหละ สติกเกอร์ก็มีแปะบอกไว้ คู่มือก็บอกย้ำไว้อีก

ในเคสจะมีสาย Micro USB แบบสั้นๆ แถมมาให้ เอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่ วิธีการชาร์จ ก็เสียบกับคอมพิวเตอร์ หรือ Wall charger ได้เลย เพียงแต่มันมีกระดาษแผ่นเล็กๆ เขียนไว้ว่า Wall charger ส่วนใหญ่จะใช้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ แต่หากเป็น Wall charger บางรุ่นที่รองรับ Fast charge จะใช้ด้วยกันไม่ได้ อันนี้ก็นับเป็นข้อระวังเอาไว้
ตัวเคสดูมีความแข็งแรงทนทานดี ช่องสำหรับเสียบหูฟังเพื่อชาร์จนี่จะมีรูปร่างเป็นสล็อตเฉพาะเลย ไม่ต้องกังวลว่าจะใส่สลับข้างแต่อย่างใด แต่ตอนจะเสียบเข้าไปเนี่ย อาจจะรู้สึกว่าเสียบยากนิดนึงครับ
ดีไซน์หูฟังเป็นแบบที่มีลักษณะคล้ายท่อนำเสียงเข้ารูหู ไม่ใช่ยัดเข้าไปในรูหู
พอเสียบเข้ากับหูเพื่อใช้งานแล้ว ดูจากภายนอกก็จะไม่ต่างจากหูฟังแบบ In-ear เท่าไหร่
มาคุยกันเรื่องหูฟังหน่อย ใครที่คุ้นชินกับสไตล์ In-ear มาตลอด อาจจะงงๆ กับการออกแบบของตระกูล BackBeat FIT นี่ เพราะมันไม่ได้เอาไว้จิ้มหู แต่เจ้านี่ต้อง คล้องหู แล้วจัดๆ นิดหน่อยเพื่อให้ส่วนที่เป็นเหมือน “ท่อ” มันจ่อๆ ไปใกล้ๆ รูหูของเรา … ดีไซน์แบบนี้แหละครับ ที่ทำให้เสียงภายนอกมันไม่ถูกตัดออกไป ซึ่งมันเป็นประโยชน์ต่อการใส่ฟังเพลงนอกสถานที่ ที่เรายังมีความจำเป็นต้องได้ยินเสียงรอบข้างเอาไว้ตลอดเวลา แต่เพราะดีไซน์แบบนี้แหละ เลยทำให้ต้องออกแบบหูฟังมาเป็นแบบเกี่ยวหู เพราะมันไม่ได้มีอะไรอื่นไว้ให้ยึดเลย
สเปกของหูฟังเป็นแบบนี้นะครับ
- ขนาดลำโพง: 13.5 มม.
- ไมโครโฟน: MEMS Microphone with DSP
- การตอบสองความถี่: 20Hz – 20kHz
- ความคลาดเคลื่อนของ Harmonic: < 3%
- ความไว: 94dBSPL ที่ระดับเสียงสูงสุด
- การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0, HFP 1.7, HSP 1.2, A2DP 1.3, AVRCP 1.5
- ระยะใช้งานแบบไร้สาย: ประมาณ 10 เมตร (ระยะที่ใช้ได้จริง จะขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ)
- ความจุแบตเตอรี่:
- ตัวหูฟัง 90mAh
- ตัวเคส 740mAh
- ระยะเวลาใช้งาน: สูงสุด 5 ชั่วโมง (ฟังเพลง) หรือ 5 ชั่วโมง (สนทนา) เคสบวกเพิ่มได้อีก 10 ชั่วโมง (ถ้าชาร์จแบตเตอรี่เคสเอาไว้เต็ม) หากชาร์จแบตเตอรี่ 15 นาที จะฟังเพลงได้นานเพิ่มขึ้น 1 ชั่วโมง
- อยู่ในโหมด Deep sleep ได้นาน 6 เดือน
- กันน้ำกันฝุ่น: IP57
การเริ่มใช้งานไม่ยากครับ ตามคู่มือเขียนไว้ว่าพอเอาออกมาใช้งานครั้งแรก มันก็จะอยู่ในโหมดจับคู่ (Paring) เลย เราก็แค่หยิบสมาร์ทโฟนออกมาทำการจับคู่ก็เรียบร้อย แต่ถ้าหาไม่เจอ ก็กดปุ่มตรงหูฟังด้านขวาค้างไว้จนมันปิด แล้วกดปุ่มเดิมค้างไว้เกิน 4 วินาที มันจะเข้าสู่โหมดจับคู่อีกครั้ง
การตั้งค่าต่างๆ ที่สามารถทำได้ผ่านทางแอป
อัพเดตเฟิร์มแวร์ของหูฟังก็ต้องทำผ่านทางแอปนี่แหละ
ตัวหูฟังรองรับ HD Voice ซึ่งให้เราสนทนาทางโทรศัพท์ได้ด้วยเสียงคุณภาพสูง (สมาร์ทโฟนต้องรองรับด้วยนะ)
ตั้งค่าหูฟังว่าการแตะจะเป็นการปรับระดับเสียง หรือสั่งงานอื่นๆ
ตั้งค่าให้การแตะหูฟังสามารถสั่งงานต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้มากมาย
แนะนำว่าดาวน์โหลดแอป BackBeat (iOS หรือ Android) เอาไว้ด้วย เพราะมันจะช่วยให้เราใช้งาน Plantronics BackBeat FIT 3100 ได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดตเฟิร์มแวร์ การตั้งค่าปุ่มใช้งาน หรือแม้แต่การเปลี่ยนภาษาพูดของหูฟัง ซึ่งปัจจุบันมีภาษาไทยแล้ว (เย้!) เป็นต้น
ค่าตั้งต้นของหูฟัง มันจะพูดภาษาอังกฤษ ฉะนั้นใครที่อยากให้มันพูดภาษาไทย ก็ต้องไปตั้งค่าเอาผ่านแอปครับ (ถึงได้แนะนำให้ดาวน์โหลดไง)
ตัวหูฟังสองข้าม ดีไซน์มันจะเป็นปุ่มใหญ่ๆ ตรงหูฟังครับ เพียงแต่นอกเหนือจากที่มันจะสามารถ “กด” ได้แล้ว มันยังสามารถสั่งงานได้ด้วยการ “แตะ” อีกด้วย ซึ่งปกติก็จะเป็นการปรับระดับเสียง โดยการแตะจะเป็นการเพิ่มระดับเสียง ส่วนการแตะค้างไว้จะค่อยๆ ลดระดับเสียง แต่เราสามารถตั้งผ่านแอปให้เป็นอย่างอื่นได้ครับ

มาดูคุณภาพหูฟังกันบ้างครับ ลองเอามาฟังเพลงแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า Plantronics BackBeat FIT 3100 นี่ยังไม่ทิ้งคุณภาพของตระกูล BackBeat FIT จริงๆ เป็นหูฟังที่ให้เสียงดีทีเดียว เสียงเบสเองก็ออกมาดี แม้ว่าจะไม่แน่นบึ้กเหมือนกับพวกที่เป็นแบบ In-ear ก็ตาม (รู้สึกถึงความแตกต่างได้ หากจงใจกดหูฟังให้แนบรูหูมากขึ้น จะรู้สึกได้ว่าเสียงหนักแน่นขึ้น) แต่นั่นเป็นเพราะดีไซน์ที่ต้องการให้หูฟังไม่กั้นเสียงภายนอกอย่างสิ้นเชิง
บทสรุปการรีวิว Plantronics BackBeat FIT 3100
ในขณะที่ยี่ห้ออื่นเขาทำหูฟังแบบ True wireless มาขายกันเยอะแล้ว ผมก็แอบดีใจที่ในที่สุด Plantronics ก็ออกรุ่นที่เป็น True wireless ของตัวเองออกมาบ้างซะที แถมทำเป็นรุ่นสำหรับออกกำลังกายอีกด้วย ซึ่งผมเองก็มองว่าหูฟังจำพวก True wireless เนี่ย เหมาะกับการออกกำลังกายสุดๆ แล้วแหละ
Plantronics BackBeat FIT 3100 ไม่ได้ทำให้ผิดหวังจริงๆ ครับ ทั้งด้านคุณภาพเสียงที่ผมว่าดีไม่แพ้ตัว BackBeat FIT เดิม ในขณะที่แบตเตอรี่ก็อึดพอที่จะอยู่ได้ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง (ในความเป็นจริงอาจจะได้น้อยกว่านั้นเล็กน้อย อยู่ที่การใช้งานจริงๆ) ซึ่งก็มากเพียงพอสำหรับการวิ่งระดับฮาล์ฟมาราธอน (21.1 กิโลเมตร) แม้ว่า Pace จะอยู่ที่ 9 นาที/กิโลเมตร ก็ตาม (ถ้าจะเอาไปวิ่งมาราธอน และ Pace อยู่ที่ 6:40 นาที/กิโลเมตร แบตเตอรี่ก็จะอยู่รอดเช่นกัน) ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นนักวิ่งแบบอาชีพ หรือสมัครเล่น Plantronics BackBeat FIT 3100 นี่เอาอยู่ครับ