สุดสัปดาห์หนีมาชาร์จแบตให้กับชีวิตที่หัวหินครับ แค่สองวันหนึ่งคืน โดยพักที่อมารี หัวหิน เพราะแฟนสามารถซื้อวอยเชอร์ที่พักได้ไม่แพง แล้วเผอิญโรงแรมมันอยู่ติดกับ Cicada market กับ Tamarind market ด้วย ก็เลยถือโอกาสไปเดินเล่นตอนค่ำ และเผอิญไปเจอร้านที่ขายทุเรียนสมูทตี้ กับ อาลัวทุเรียน เลยต้องขอลองซักหน่อยครับ
สำหรับสมูทตี้ ผมคิดว่าทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วว่าคืออะไร แต่อาลัวนี่ บางคนอาจจะนึกภาพไม่ออกว่ามันคืออะไร (ทั้งๆ ที่บางคนอาจจะเคยกินมันมาก่อน) มันคือขนมไทย รูปร่างหน้าตาแบบออริจินัลก็แบบด้านล่างนี่ครับ แต่รูปด้านล่างนี่เป็นแบบจิ๋วครับ แต่เดี๋ยวนี้มีคนทำเป็นรูปกุหลาบด้วย เขาเรียก อาลัวกุหลาบ

เอาล่ะ เริ่มต้นที่ทุเรียนสมูทตี้กันก่อน ร้านที่ขายนี่คืออยู่ประมาณกลางๆ ของ Tamarind market ครับ จริงๆ จุดขายของเขาคือ ปั่นสดใส่ลูก ซึ่งเป็นพวกน้ำส้ม กะ น้ำแคนตาลูป (ผมไม่ได้ชิม แต่ผมแนะนำว่าควรลอง) แต่ผมกลับไปสนใจไอ้ที่เขาขายคนจีนครับ คือ ทุเรียนสมูทตี้ กับ มะม่วงสมูทตี้
ผมลองถามคนขายดูพบว่า คนจีนชอบทานมะม่วงสมูทตี้มากกว่า ทุเรียนนี่นานๆ มีคนมากินที ซึ่งผมก็คิดว่าไม่น่าแปลกใจ เพราะทุเรียนนี่มันไม่น่าจะใช่อะไรที่จะเอามาทำสมูทตี้นะ แต่ก็เพราะแบบนี้แหละ มันเลยน่าลอง

ว่าแล้วก็สั่งสิครับ ส่วนผสมของทุเรียนสมูทตี้ก็มีเนื้อทุเรียน น้ำแข็ง แล้วก็ปรุงรสด้วยหญ้าหวาน (ไม่ใส่น้ำตาล … ไฮโซวววว) น้ำผึ้ง (ใช้ยี่ห้อดอยคำ) และเกลือครับ สองอย่างแรกนี่เขาเขียนบอกไว้ในป้าย แต่ไอ้อย่างหลังนี่เขาไม่ได้เขียนบอกนะ (แต่ผมก็ไม่ได้ถามว่าใส่ไปทำไม) หน้าตาที่ออกมา มันก็เหมือนๆ กับสมูทตี้ทั่วๆ ไปนั่นแหละ สีเหลืองอ่อนๆ ถ้าไม่รู้จะนึกว่ากล้วยสมูทตี้
ส่วนผสมนอกจากเนื้อทุเรียนหรือน้ำแข็งแล้ว ก็มี หญ้าหวาน น้ำผึ้ง กับเกลือครับ
หน้าตามันก็เหมือนกับสมูทตี้อื่นๆ อ่ะนะ แต่รสชาติล่ะ?
ถามว่ารสชาติเป็นยังไง? ผมว่าทุเรียนควรเอาไว้ทำแค่ ข้าวเหนียวทุเรียน ทุเรียนกวน แล้วก็ไส้ขนมไหว้พระจันทร์ก็พอแล้วล่ะครับ 555 หมดกัน 79 บาท
ผมว่าทุเรียนควรเอาไว้ทำแค่ ข้าวเหนียวทุเรียน ทุเรียนกวน แล้วก็ไส้ขนมไหว้พระจันทร์ก็พอแล้วล่ะครับ
เอาล่ะ ถัดมาคือ อาลัวทุเรียนครับ เป็นอาลัวที่ทำจากเนื้อทุเรียนสด แล้วมีไส้ไข่เค็มด้วย สงสัยเอาแนวคิดมาจากขนมไหว้พระจันทร์ แต่ผมแปลกใจตรงภาษาจีนที่เขียน 木榴莲 甜点 ผมลองพยายามแปล มันน่าจะได้ว่า ต้นทุเรียน หวานน้อย ไปไม่เป็นเลยแฮะ

อ่ะ จัดมา 2 ชิ้นเล็ก ค่าเสียหาย 50 บาท แพงเอาเรื่อง แต่หยวนๆ เพราะ 1) เป้าหมายคือขายนักท่องเที่ยวนิ และ 2) ของมันออกจะออริจินัล ให้ค่าไอเดียและความพยายามในการลองของใหม่ซะหน่อย
ซื้ออาลัวทุเรียนมา 2 ชิ้นเล็ก 50 บาท แพงเอาเรื่องแฮะ
ดูใกล้ๆ อาลัวทุเรียน
ด้านในไส้ไข่เค็ม แต่อย่าคิดว่าจะแบบ ไข่เค็มแดงอัดจัดเต็มนะ นี่คือเท่าที่เห็นจริงๆ
ลองชิมในบัดดล พบว่ามันมีรสชาติทุเรียนประมาณนึง แต่มันไม่ได้กรอบนอกนิดๆ นุ่มใน แบบอาลัวฉบับออริจินัล เจ้านี่คือ นุ่มตั้งกะต้นยันจบ และมีรสชาติแปลกๆ ครับ คือ มันไม่ใช่ไม่อร่อย … แต่มันก็ไม่ได้อร่อยมากว่ะ ไส้ไข่เค็มนี่แบบ แอบงกไปนิด คือ น้อยมาก พี่คิด 50 บาทแล้ว ใส่ให้มันเต็มๆ กว่านี้หน่อยก็ไม่ได้อ้ะ ไข่แดงมาซักครึ่งลูกก็ยังดี
ผมว่า อาลัวทุเรียน นี่พอกินได้ แต่ว่าจำกัดไว้ซัก 2 ชิ้นครับ มากกว่านั้นผมว่าเลี่ยน แล้วจะรู้สึกแบบว่า เริ่มไม่อร่อยละมั้ง 555
แต่ถ้าใครมาถึงหัวหิน มาที่ Tamarind market แล้ว ผมว่ายอมเสียตังค์ซักนิดหน่อย จับกลุ่มหลายๆ คน มาลองกินซักทีเป็นประสบการณ์ชีวิตก็ดีนะครับ (ฮา)