เคยสังเกตไหมครับ ว่ากระเป๋าเดินทาง หรือกุญแจล็อกบางยี่ห้อ (โดยเฉพาะยี่ห้อดังๆ) ต่อให้มันเป็นรุ่นที่ปลดล็อกด้วยเลขรหัส มันจะมีรูกุญแจเล็กๆ อยู่ เขียนว่า TSA พร้อมกับตัวเลข 3 หลัก เช่น 002, 007 แล้วคุณรู้ไหมว่ามันคืออะไร? เราอาจจะคิดว่ามันคือช่องทางสำรองสำหรับเปิดกระเป๋าในกรณีที่เราลืมรหัสละมั้ง แต่ทำไมไม่เห็นมีลูกกุญแจให้มาด้วยล่ะ? นั่นก็เพราะเราเข้าใจถูกเพียงครึ่งเดียวครับ
TSA ย่อมาจาก Transportation Secuirty Administration หรือสำนักงานความปลอดภัยในการขนส่ง เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริกา ซึ่งออกแบบระบบที่เรียกว่า TSA LOCK® นี่ขึ้นมาเพื่อเป้าหมายด้านความปลอดภัยในการคมนาคม แต่ยังคงอำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทางครับ
คืองี้ ปกติเวลาที่สนามบิน (หรือศูนย์กลางการขนส่งใดๆ ก็ตาม) เขามีข้อสงสัยว่ามีวัตถุต้องสงสัยอยู่ในกระเป๋า เขาจะต้องเปิดกระเป๋าตรวจสอบ แต่ในหลายๆ เคส การตามหาเจ้าของกระเป๋าเพื่อให้เปิดให้เนี่ย มันไม่สะดวก ส่วนไอ้ครั้นจะต้องทำลายล็อกทิ้งเพื่อเปิดกระเป๋า มันก็ไม่สะดวกต่อผู้เดินทางเช่นกัน ฉะนั้น TSA LOCK® นี่เลยเข้ามาอำนวยความสะดวกตรงนี้ เพราะ TSA LOCK® เนี่ย มันจะมี Master key อยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยก็จะมีกุญแจชุดนี้ เพื่อเอาไว้เปิดล็อกได้ โดยไม่ต้องรอตามหาเจ้าของกระเป๋านั่นเอง

ว่ากันว่าปกติแล้ว สนามบินเขาไม่เปิดกระเป๋าผู้โดยสารโดยไม่จำเป็นหรอกนะครับ มันต้องมีพิรุธ มีเหตุให้ต้องสงสัย หรือมีข่าวกรองบางอย่างมาบอกให้เปิดนั่นแหละ แต่มันก็มีเช่นกันที่เขาจะ “สุ่ม” ขึ้นมาตรวจ เป็นไปตามกระบวนการด้านความปลอดภัยของเขา ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้ว ปัจจุบัน หากคุณจะเดินทาง คุณควรจะให้แน่ใจว่ากระเป๋าเดินทางของคุณนั้นเป็นแบบที่มี TSA LOCK® (หรือบางยี่ห้อจะเรียกว่าเป็น TSA-compliant lock) เพราะว่า หากจับพลัดจับผลู ดวงซวยขึ้นมา เขาสุ่มกระเป๋าคุณขึ้นมา แล้วตัวล็อกดันไม่เป็น TSA LOCK® ละก็ เขามีสิทธิทำลายล็อกของกระเป๋าคุณทิ้งเพื่อเปิดกระเป๋าได้เลยนะครับถ้าจำเป็น
ซึ่งการเดินทางไปประเทศต่างๆ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น อิสราเอล ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก สาธารณรัฐเชก เยอรมนี ออสเตรีย เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ (และจะมีเพิ่มอีกในอนาคต) เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของประเทศนั้นๆ จะมีกุญแจสำหรับเปิดล็อกแบบนี้ เพื่อตรวจสอบของที่อยู่ข้างในกระเป๋า แล้วก็ล็อกกระเป๋าให้เราเสร็จสรรพ โดยไม่ต้องทำลายกระเป๋าฮะ
เฮ้ย! มีกุญแจที่เปิดกระเป๋าได้ทุกใบแบบนี้ แล้ว TSA LOCK® ปลอดภัยไหม?
บอกตรงๆ ระบบมันจะดีแค่ไหน ความชิบหายของระบบมันอยู่ที่ตัวบุคคลจริงๆ ครับ ปกติแล้ว ภาพของ TSA Master key นี่คืออะไรที่ห้ามเผยแพร่เลย แต่ปรากฏว่ามันก็หลุดออมาได้ยังไงไม่รู้ (ฮา) โผล่ในบทความของ Washington Post ทีนึง กับไฟล์ PDF ที่หลุดจากเว็บไซต์ของ Traven Sentry (ไม่ต้องไปคลิกลิงก์หานะครับ เขาเอารูปกับไฟล์ออกไปนานแล้ว) ผลก็คือ มีคนเอาข้อมูลเหล่านี้มาผสมผสานกัน แล้วก็เอามาสร้างเป็นไฟล์ CAD แล้วแจกจ่ายกันบนอินเทอร์เน็ต แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกดอกจะใช้งานได้ แต่ก็มีคนเอาไปทำด้วย 3D Printer ขึ้นมาแล้วลองเปิดล็อกได้ด้วยเช่นกันนะครับ อย่างเช่นที่ ars technica นี่เป็นต้น
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า ความสะดวก กับ ความปลอดภัย มันมักไม่ค่อยไปด้วยกันซักเท่าไหร่ เมื่อเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น ความสะดวกมันก็จะลดลง ในทางกลับกัน หากเรายืดหยุ่นนิดหน่อย เพื่ออำนวยความสะดวกในบางเรื่อง ความปลอดภัยมันก็อาจจะลดลง (หรือลดฮวบ) ลงในทันที การที่ยอมให้มี Master key มันย่อมหมายถึงการยอมให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยต่อทรัพย์สินของผู้เดินทางอยู่แล้วล่ะนะ
แต่ข่าวดีก็คือ แม้ Master key จะหลุด แต่การที่มิจฉาชีพจะแอบดอดมาขโมยเปิดกระเป๋าเรามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะว่าส่วนใหญ่ผู้เดินทางก็มักจะไม่ปล่อยให้กระเป๋าอยู่ห่างจากตัวอยู่แล้ว และจังหวะเดียวที่กระเป๋าอยู่ห่างจากตัว ก็มักจะเป็นหลังจากที่เช็กอินกระเป๋าไปแล้ว ซึ่งตอนนั้นมันก็ไปอยู่ภายใต้ความดูแลของสนามบินหรือสายการบิน ที่เราก็มั่นใจได้ระดับนึงแหละว่าจะไม่มีใครแอบดอดขโมยของของเราไป (ผู้ถือ Master key ก็จะต้องมีการเช็กประวัติก่อนรับเข้าทำงานอยู่แล้ว)
ฉะนั้น โดยสรุปแล้ว TSA LOCK® มีช่องโหว่ครับ และยากที่จะอุด เพราะกระเป๋าที่เป็น TSA LOCK® ก็กระจายไปทั่วโลกหมดแล้ว จะเปลี่ยนใหม่ตอนนี้ เดือดร้อนทั่วโลกแน่นอน แต่โอกาสที่เราจะโดนมิจฉาชีพแอบมาเปิดกระเป๋าเราด้วยกุญแจที่ทำจากข้อมูลที่หลุดไปนั้นก็ยังน้อยอยู่ครับ … อย่างน้อยก็ ณ ขณะที่ผมเขียนบล็อกนี้อยู่