เผลอแป๊บเดียว ก็ใช้ Adobe Creative Cloud ที่เป็นการซื้อไลเซ่นส์ใช้ซอฟต์แวร์ของ Adobe แบบ Subscription มาจะครบปีแล้วครับ นี่เสียค่าใช้จ่ายไปเดือนละ 1,782 บาท/เดือน เพื่อใช้ซอฟต์แวร์แค่ 3 ตัวหลักๆ คือ Adobe Photoshop, Adobe Acrobat Pro และ Adobe Acrobat Illustrator เพราะตอนจะทำงานมันต้องเปิดไฟล์ของสามโปรแกรมนี้บ่อยๆ แต่พอครบไปหนึ่งก็เริ่มรู้สึกแบบว่า ผมไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ของซอฟต์แวร์แบบเต็มเหนี่ยวขนาดนั้น ถ้าเราหาซอฟต์แวร์ฟรีที่แม้จะไม่เจ๋งเท่า แต่มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์เราได้ก็พอ มันก็คงดีสินะ
ผมก็เลยกลับมาลอง GIMP ดูอีกที หลังจากห่างหายไปจากมันมานานมาก เพราะตอนนั้นรู้สึกว่าลูกเล่นไม่ได้ตอบโจทย์เท่า Photoshop และ User Interface ก็ใช้งานยุ่งยาก แต่ด้วยความที่แก่แล้วเริ่มงกไง ก็เลยคิดว่าจะลองพยายามใช้ดูอีกที เพราะถ้ามันใช้ทดแทน Photoshop ได้นะ (และหาโปรแกรมอื่นๆ มาทดแทน Acrobat Pro กับ Illustrator ได้ … ซึ่งผมก็เริ่มเห็นตัวแทนแล้ว) มันก็ประหยัดเงินผมได้พอสมควรอยู่นะ
- ถ้าคิดจากที่ผมจ่ายอยู่ตอนนี้ แล้วหาซอฟต์แวร์ฟรีมาทดแทนได้หมด จะประหยัดปีละ 1,782×12 = 21,384 บาทเลยนะ เอามาเป็นค่าเบี้ยประกันรถยังมีทอนอ่ะ
- ถ้าคิดจากที่จ่ายเฉพาะค่า Photoshop จะประหยัดปีละ 356×12 = 4,272 บาท เอาไปซื้อไลเซ่นส์ Microsoft Office 365 ได้ปีกว่าๆ หรือบวกตังค์อีก 30 บาท ซื้อไลเซ่นส์ Microsoft Office Home & Student 2016 ได้เลย
ทีนี้ก็ต้องดูว่ามันตอบโจทย์ผมได้ไหม ซึ่งคร่าวๆ ผมไม่ต้องการอะไรมากเลยนะ ก็แค่
- มันต้องตัดภาพเอาแบ็กกราวด์ออกได้ง่ายๆ
- มันต้องมีเครื่องมือปรับแต่งภาพได้ประมาณนึง
- มันต้องรองรับฟ้อนต์ไทย
- เปิดไฟล์ PSD (ไฟล์ของ Photoshop) ได้
ซึ่งพอได้ลองใช้ GIMP ไปพักนึง ก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันตอบโจทย์หมดเลยนะเออ
Foreground Selection Tool ของ GIMP ตัดแบ็กกราวด์ออกได้ง่าย
เครื่องมือของ Adobe Photoshop ช่วยให้การตัดแบ็กกราวด์ของภาพออกไปได้ไม่ยาก แม้ว่าตัวภาพมันจะมีรายละเอียดเล็กๆ เช่น พวกเส้นผม อะไรแบบนี้ คือชอบมาก พอจะมาใช้ GIMP ผมก็รู้สึกว่าแบบ เฮ้ย แล้วถ้าเปลี่ยนมาใช้ GIMP มันจะทำแบบนี้ได้ไหม? มันสำคัญมาก เพราะแม้งานตัดต่อกราฟิกจะไม่ใช่งานหลักของผม แต่บ่อยครั้งที่ผมต้องทำอะ
คำตอบก็คือ GIMP มันทำงานแตกต่างไปจาก Photoshop แต่ว่าเครื่องมือ Foreground Selection Tool นี่ตอบโจทย์อย่างแรง ใช้ไม่ยากด้วย ถ้าจะให้พูด ผมว่ามันคล้ายกับพวกแอปตัดต่อภาพบนสมาร์ทโฟนอีกต่างหาก
อย่างไรก็ดี ถ้าเทียบกับการลองตัดแบ็กกราวด์ออกจากภาพด้วย Photoshop เท่ากับ GIMP แล้ว ผมยังมองว่า Photoshop ทำงานได้เนียนกว่า เก็บงานง่ายกว่าพอสมควรอยู่นะฮะ แต่การเก็บงานบน GIMP ก็ไม่ได้ถึงกับยากมากมายนัก แค่ Photoshop มันง่ายกว่า
เครื่องมือปรับแต่งภาพของ GIMP ก็มีตอบโจทย์ผมไม่แพ้ Photoshop
ผมไม่ใช่กราฟิกดีไซเนอร์มืออาชีพ ฉะนั้นผมไม่กล้าฟันธงว่า GIMP มีลูกเล่นพอๆ กัน หรือไม่แพ้ Photoshop แต่สำหรับผมแล้ว ความสามารถในการตกแต่งภาพ เช่น ปรับ Level, ปรับ Curve หรือพวก Saturation ของภาพอะไรแบบนี้ มันทำได้เหมือนๆ กับที่ Photoshop ทำได้อ่ะ เพียงแต่ User Interface มันแตกต่างไปจากของ Photoshop

ฟ้อนต์ภาษาไทยก็ใช้ได้บน GIMP
แน่นอนว่า GIMP มันก็มีเครื่องมือสำหรับพิมพ์ข้อความลงไปไว้บนภาพ เหมือนกับที่ Photoshop เขามี ตรงนี้ผมได้ลองใช้ฟ้อนต์ไทยหลายๆ อันมาลองดู ก็พบว่าใช้ได้ดีทีเดียว และจริงๆ แล้ว ผมรู้สึกว่ามันรองรับฟ้อนต์ภาษาไทยมากกว่า Photoshop อีกนะ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะครับ)
GIMP เปิดไฟล์ PSD ได้
สำคัญสุดๆ คือ แม้ว่าผมจะย้ายมาใช้ GIMP แล้ว แต่ผมก็ยังมีความจำเป็นต้องทำงานกับไฟล์ Photoshop (นามสกุล PSD) อยู่นะ เช่น เวลาที่กราฟิกดีไซน์เนอร์ส่งไฟล์ภาพงานมาให้ดู และเผื่อแก้ไข โดยส่งมาเป็น PSD เป็นต้น และ GIMP ก็สามารถตอบโจทย์นี้ของผมได้อยู่
ฉะนั้นแล้ว หากใครกำลังมองหาโปรแกรมตกแต่งภาพที่มีความสามารถในระดับน้องๆ Photoshop ผมก็อยากแนะนำ GIMP ครับ ตอนนี้มีให้ดาวน์โหลดทั้งเวอร์ชัน Windows/macOS/Linux เลยด้วย เวลาจะใช้ หากคุ้นเคยกับ Photoshop แล้ว ก็อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับเครื่องมือของมันอีกหน่อย แต่สำหรับคนไม่มีงบซื้อไลเซ่นส์ Adobe Photoshop มาใช้ ผมว่า GIMP เป็นตัวเลือกที่ฟรีและดีทีเดียว
ดาวน์โหลด GIMP ได้ที่: https://www.gimp.org/downloads/
มีโปรแกรมที่ผู้พัฒนาเอา GIMP ไปทำต่อโดยปรับเมนู คำสั่ง ต่าง ๆ ให้ ใกล้เคียงกับ Photoshop ชื่อ Gimpshop
https://www.gimpshop.com/
ลองดูนะครับ
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ