หลังจากปล่อยให้ TS-x53 เขาก้าวสู่รุ่น B ไปหลายตัวแล้ว ก็ถึงเวลาที่ TS-x51 อย่าง TS-251B นี่จะก้าวเข้าสู่รุ่น B กับเขาบ้างครับ ตัวนี้มีการอัพเกรดหน่วยประมวลผลมาเป็น Intel® Celeron® J3355 Dual-core 2.0GHz พร้อมรองรับการอัพเกรดหน่วยความจำเป็น 8GB ด้วย และอื่นๆ อีกนิดหน่อย ไว้ค่อยพูดถึงตอนรีวิวก็แล้วกันเนอะ
มาดูรูปร่างหน้าตาของ QNAP TS-251B กันก่อน
ลองแกะกล่องออกมา จะเห็นว่า TS-251B เนี่ยมีดีไซน์สไตล์โค้งมนคล้ายๆ กับ TS-253B ครับ แตกต่างกันตรงที่ตัวเครื่องเป็นสีขาวสลับกับเทาเงิน ในขณะที่ TS-253B เป็นฟ้าสลับกับดำ ดีไซน์ใหม่ของ QNAP ในตระกูล x51B กับ x53B ตอนนี้ที่เห็นได้ชัดคือมีฝาปิดถาดใส่ฮาร์ดดิสก์ครับ

ในส่วนของด้านหลังมีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ครบถ้วนสำหรับ NAS ทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 พอร์ตนึง และ USB 2.0 ให้อีก 3 พอร์ต พร้อม Gigabit LAN อีกพอร์ต แล้วก็มีลำโพงตัวเครื่องด้วย
นอกจากนั้นก็มีพอร์ต HDMI เอาไว้สำหรับต่อตัว NAS ให้แสดงผลออกจอภาพได้โดยไม่ต้องไปง้อเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีช่องเสียบไมโครโฟนให้ 2 ช่อง น่าจะเอาไว้สำหรับเวลาเอา TS-251B ไปทำเครื่องเล่นคาราโอเกะ เพียงแต่เสียดายที่เขาไม่ได้ใช้ช่องเสียบแบบ 1/4″ (6.5 มม.) ที่เป็นมาตรฐานของไมโครโฟนมากกว่า ฉะนั้นใครอยากจะใช้ ก็ต้องหาตัว Converter มาเสียบ หรือไม่ก็ใช้ไมโครโฟนสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แทน

ความแตกต่างของ TS-251B จาก TS-251A ก็คือ USB QuickAccess ที่เป็นจุดเด่นของ TS-251A หายไป แล้วก็จำนวนพอร์ต USB 3.0 ลดลง แต่เพิ่มจำนวน USB 2.0 เข้ามา ซึ่งผมรู้สึกว่ามีแค่สองพอร์ตก็พอแล้ว (สำหรับคีย์บอร์ดและเมาส์) แล้วสองพอร์ตที่เหลือด้านหลังควรเป็น USB 3.0 ไป
พอร์ต Gigabit LAN ก็ถูกลดจำนวนลงเหลือพอร์ตเดียว (จากเดิมที่มีสอง) ซึ่งผู้ใช้งานภายในบ้านอาจจะไม่ได้เดือดร้อน แต่สำหรับผู้ใช้งานระดับ SOHO เนี่ย การมีสองพอร์ตจะช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการบริหารแบนด์วิธมากกว่า แต่กรณีที่ต้องการแบนด์วิธแบบนั้น ก็เลือกใส่การ์ด 10GbE ได้ครับ (แต่ต้องซื้อ 10GbE switch มาด้วยนะ) ซึ่งนั่นจะยิ่งดีเพราะได้แบนด์วิธสูงกว่าเยอะ
ลองติดตั้งใช้งาน QNAP TS-251B
ได้เวลาเริ่มทดลองใช้งานแล้วครับ สำหรับฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ทำการทดสอบก็คือ WD Red 5TB จำนวนสองลูกครับ เจ้านี่เป็นแบบ 2-bay ทางเลือกในการทำ RAID ก็เลยมีแค่ RAID0 กับ RAID1 ครับ ซึ่งจะเลือกใช้อะไรนั้นก็แล้วแต่ความต้องการนะครับ
- RAID0 จะเราได้เนื้อที่แบบเต็มๆ แต่ว่าจะไม่ได้รับการป้องกันข้อมูลสูญหายในกรณีที่ฮาร์ดดิสก์เสียนะครับ และถ้าเกิดลูกใดลูกหนึ่งเสียขึ้นมา ก็คือใช้งานไม่ได้ทั้งคู่นะครับ
- RAID1 จะให้เนื้อที่ความจุแค่เท่ากับฮาร์ดดิสก์ลูกเดียว แต่แลกมาด้วยการป้องกันข้อมูลสูญหายในกรณีที่ฮาร์ดดิสก์ลูกใดลูกหนึ่งเสียหาย เพราะอีกลูกยังอยู่

การติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไม่ยุ่งยากครับ ฝาหน้าของตัวเครื่องเป็นแบบแม่เหล็ก แกะง่าย แต่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะหลุดง่าย เพราะมันมีสวิตช์ล็อกอยู่ด้านข้าง ดีไซน์นี้คล้ายๆ กับของ TS-253B ที่ผมว่าทำออกมาได้ดี สะดวกอยู่

ถาดใส่ฮาร์ดดิสก์นี่เป็นแบบ Tooless ไม่ต้องใช้ไขควง ไม่ต้องใช้น็อตอะไร ก็ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ได้ และทำได้ไม่ยากเลย

การเริ่มต้นใช้งานไม่ยากครับ ใช้โปรแกรม Qfinder หา NAS แล้วก็เข้าสู่หน้าตัวช่วยติดตั้ง (Wizard) แล้วก็ตั้งค่านิดๆ หน่อยๆ ก็เรียบร้อย รอมันตั้งค่าโน่นนี่นั่นเสร็จ ก็พร้อมใช้งานครับ

ด้วยความที่ TS-251B ใช้หน่วยประมวลผลเป็น Intel® Celeron® J3355 Dual-core 2.0GHz และมาพร้อมกับหน่วยความจำ 2GB หรือ 4GB (เพิ่มได้สูงสุดเป็น 8GB) และมีพอร์ต PCIe ด้วย เลยทำให้รองรับฟีเจอร์หลายๆ อย่างที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานทั้งภายในบ้านและภาคธุรกิจแบบ SOHO ด้วยครับ เช่น
Snapshot
เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยเสริมการคุ้มครองข้อมูลนอกเหนือจาก RAID1 ที่ป้องกันในระดับฮาร์ดแวร์ ส่วนเจ้านี่จะป้องกันในระดับไฟล์ คือ เก็บข้อมูลเอาไว้เป็น Image เพื่อให้เราสามารถย้อนกลับไปกู้ข้อมูลได้ ในกรณีที่เราเผลอเซฟผิดบ้าง ลบทิ้งไปบ้าง ซึ่งเป็นอะไรที่ RAID1 ช่วยไม่ได้

ดูหนังความละเอียด 4K ได้สบายๆ
ด้วยชิป Intel® HD Graphics เลยทำให้ TS-251B รองรับการถอดรหัสไฟล์วิดีโอความละเอียด 4K แบบ H.264 และยังทำ Real-time transcoding (หรือ On-the-file transcoding) ได้สบายๆ หรือถ้าจะดูแบบต่อออกจอภาพผ่านพอร์ต HDMI ก็สามารถดูได้ที่คุณภาพระดับ 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาทีเลย นี่ยังไม่นับเรื่องการสตรีมมิ่งไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่ง QNAP NAS รองรับโปรแกรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Plex® Media Server หรือมาตรฐานอื่นๆ เช่น DLNA®, Chromecast™ เป็นต้น
เสียแค่ว่ารุ่นนี้ไม่ได้มีรีโมทคอนโทรลแถมมาให้ครับ ต้องซื้อแยกต่างหาก แต่รีโมทของรุ่นนี้ (RM-IR004) มีลูกเล่นเจ๋งๆ คือ มันสามารถตั้งค่าด้วยแอป QButton ที่ดาวน์โหลดได้จาก AppCenter บน NAS เพื่อปรับตั้งค่าปุ่มต่างๆ ได้ (จริงๆ มันไม่ได้ไปปรับค่าอะไรในปุ่มหรอกครับ มันแค่กำหนด Action ของ NAS เวลาที่กดปุ่มบนรีโมทเท่านั้นแหละ)

PCIe เพิ่มความสามารถหลากหลายให้ QNAP TS-251B

นี่เป็นครั้งแรกที่ตระกูล TS-x51 มันมีสล็อต PCIe มาให้ด้วย ทำให้เราสามารถเพิ่มขีดความสามารถให้กับ TS-251B ได้ โดยมีตัวเลือกคือ
- M.2 SSD เอาไว้เพิ่ม SSD เข้าไป เผื่อใครอยากทำ SSD cache acceleration
- 10GbE เอาไว้เพิ่มพอร์ต 10GbE ให้อีก 2 พอร์ต ได้แบนด์วิธีสูงปรี๊ด เหมาะสำหรับภาคธุรกิจที่มีการใช้งานพร้อมกันหลายคน และจำเป็นต้องรับส่งข้อมูลปริมาณมากๆ ตลอดเวลา
- QWA-AC2600 Wireless adapter เอาไว้เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สาย หรือเอามาใช่ร่วมกับแอป WirelessAP Station (ดาวน์โหลดจาก AppCenter บน NAS) เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับ TS-251B ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่าน Wireless router ปกติ ซึ่งจะได้แบนด์วิธแบบเต็มๆ มากกว่า

บทสรุปการรีวิว QNAP TS-251B
QNAP TS-251B นี่เป็น NAS ราคาหมื่นต้นๆ ที่มากความสามารถ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานภายในบ้าน เอาไว้เป็น NAS เก็บข้อมูลและ Media server อย่างมากทีเดียวครับ แถมยังมีสล็อต PCIe มาให้ด้วย ผมเองแอบอิจฉาเลยแหละ เพราะ TS-253 Pro และ TS-453A ที่ผมใช้อยู่ ราคาเปิดตัวก็แพงกว่า ยังไม่มีสล็อต PCIe ให้เลยครับ (ฮือๆ)
ผู้ใช้งานตามบ้านหรือธุรกิจแบบ SOHO ที่ต้องการ NAS ประสิทธิภาพดี ราคาไม่แพงมาก และโอเคกับการใช้งานแค่ RAID1 ผมคิดว่าแค่นี้ก็เหมาะแล้วครับ