เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวประเทศตุรกีมา และหนึ่งในแผนการเที่ยวที่เหมือนกับว่าไม่ไปก็เท่ากับมาไม่ถึงตุรกี ก็น่าจะเป็นการขึ้นบอลลูนที่คัปปาโดเกียครับ และในบล็อกตอนนี้ ก็เลยขอพูดถึงประสบการณ์ในการขึ้นบอลลูนกันหน่อย
ตุรกี หรือชื่อเต็มๆ สาธารณรัฐตุรกี เป็นประเทศที่พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชียตะวันตก แต่ก็มีบางส่วนที่มีพื้นที่อยู่ในทวีปยุโรป เลยจะเรียกว่าประเทศนี้เป็น “ประตูสู่ยุโรป” ก็ว่าได้ แต่เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวมันอยู่ค่อนข้างห่างจากกัน การจะไปเที่ยวให้ชิลล์ก็ไปทัวร์จะง่ายสุดครับ แต่จะนั่งรถนานเอาเรื่องทีเดียว
ทัวร์ตุรกีมันไม่ค่อยแพงครับ ได้ยินมาว่าได้การสนับสนุนจากประเทศเขานั่นแหละ เลยทำให้ค่าทัวร์มันถูก แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมไปช้อปปิ้งกับทัวร์ด้วยนะครับ (อย่างกรณีของทริปผมเนี่ย คือไปซื้อเสื้อหนังครับ)
นอนโรงแรมถ้ำในคัปปาโดเกีย: มันก็ไม่เชิง “ถ้ำ” จริงๆ หรอก

เวลาไปทัวร์ตุรกี (หรือจะประเทศไหนก็แล้วแต่) ทัวร์มักจะบอกว่าได้ไปนอนโรงแรมห้าดาว แต่มันจะมีดอกจันเล็กๆ ที่อธิบายว่า เป็นการนับดาวตามมาตรฐานของประเทศนั้นๆ นะครับ ฉะนั้นทำใจไว้เรื่องสภาพของโรงแรม ทีนี้เวลาไปคัปปาโดเกีย ทัวร์ก็มักจะเขียนว่าจะให้ไปนอนโรงแรมถ้ำครับ แต่อย่าเพิ่มไปคิดว่ามันคือโรงแรมที่อยู่ในถ้ำ หรืออะไรแบบนั้นนะ

ที่เขาเรียกว่าโรงแรมถ้ำ ผมมองว่ามันคือโรงแรมที่ถูกออกแบบให้มีบรรยากาศเหมือนอยู่ในถ้ำนั่นแหละครับ เพราะคนที่ตุรกีในพื้นที่แถบนี้ สมัยก่อนเขาเจาะเป็นถ้ำเข้าไปในภูเขาครับ
ล่องบอลลูนในคัปปาโดเกีย: ต้องตื่นแต่เช้า ต้องลุ้นเรื่องลม และต้องมีเงิน
เพื่อให้ทัวร์ไปตุรกีดูไม่แพงเกินไป และไม่ใช่ทุกคนที่ไปทัวร์จะอยากขึ้นบอลลลูน (บางคนอาจจะกลัวความสูง) ฉะนั้น ค่าขึ้นบอลลูน (คนละ $230 หรือประมาณ 7,500 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ ตอนที่เขียนบล็อกนี้อยู่) ซึ่งแพงเอาเรื่องก็เลยถูกแยกเอาไว้ต่างหากครับ ฉะนั้นถ้าอยากจะขึ้นบอลลูน ก็เผื่อเงินไว้ด้วยนะครับ

เขาล่องบอลลูนกันตอนเช้าครับ ฉะนั้นอยากขึ้นบอลลูนก็ต้องตื่นเช้าเอาเรื่องเลยแหละ ช่วงที่เที่ยวตุรกีเหมาะๆ ก็เดือนเมษายน ไปช่วงสงกรานต์ก็กำลังดีเช่นกัน อากาศแถบนี้จะเย็นเอาเรื่อง เตรียมเสื้อกันหนาวดีๆ ไปด้วย อย่าคิดว่าบอลลูนมีจุดไฟแล้วจะอุ่น มันไม่อุ่นนะครับ
แม้ว่าค่าขึ้นบอลลูนจะแพง แต่ก็อยากจะบอกว่า อุตส่าห์มาถึงที่นี่ทั้งทีแล้ว ก็ควรจะขึ้นครับ อย่าไปคิดว่าบอลลูนขึ้นที่ประเทศไทยก็มีที่เชียงใหม่ มันไม่เหมือนกันครับ ที่คัปปาโดเกียเนี่ย ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในทัวร์บอลลูนที่น่าไปในทุกบทความการท่องเที่ยวที่พูดถึงทัวร์บอลลูนเลยนะครับ อีกอย่างนึงคือ วิวมันไม่เหมือนกันครับ ประสบการณ์ในการท่องบอลลูน มันไม่ใช่แค่การได้ขึ้นบอลลูนครับ แต่มันคือการได้เห็นวิวจากบนฟากฟ้าต่างหาก
ล่องบอลลูนใช้เวลาประมาณเกือบๆ 1 ชั่วโมงครับ ที่เขาว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวนี่มันจริงจังมาก ขนาดเสื้อกันหนาวยูนิโคลที่ผมเอาไปลุยอุณหภูมิระดับ 4 องศามาแล้ว ยังเอาไม่อยู่เลย คือ มันหนาวเพราะลมอ้ะ แต่ขาลงเนี่ย เขาจะปรับทิศทางบอลลูนให้ลงมาบนกระบะหลังของรถได้พอดี เก่งมากมาย แล้วเราก็จะลงมาดื่มแชมเปญฉลอง (ที่รอดกลับมาสู่พื้นดิน … ฮา)
แล้วงานขายก็จะมาครับ เขาจะเอารูปที่ถ่ายๆ เอาไว้มาขาย มีรูปบนบอลลูนด้วย มีวิดีโอด้วย (ความยาวราวๆ 5 นาที ที่แทบจะไม่มีอะไร) ใครอยากได้รูปเขาก็จะพริ้นต์ให้ ผมแนะนำว่า ทั้งทัวร์ก็ถัวเฉลี่ยกัน แล้วก็ซื้อเป็นแฟลชไดร์ฟไปเลยดีกว่าครับ แพงขึ้นมาหน่อย แต่หารทั้ง 20 คนแล้วถูกกว่ามาก แล้วเราก็ไปเลือกได้ทุกรูปที่เขาถ่ายเลย เพียงแต่แนะนำว่าพอได้มาแล้วให้รีบเปิดดูนะครับว่าไฟล์พังไหม เพราะตอนที่ผมได้มาอ่ะ ของผมมันพัง แต่ดีว่าทัวร์ติดต่อไปเพื่อขอให้อัพโหลดขึ้น Cloud storage แล้วให้ผมดาวน์โหลดอีกทีได้ครับ